ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ยังคงเป็นรูปแบบการประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยช่วงรายงานสถานการณ์โควิด-19 นายกฯ ได้แจ้งเรื่องแผนการจัดหาวัคซีน ซึ่งกทม.เป็นพื้นที่เสี่ยงมากที่สุด และเป็นพื้นที่ที่ฉีดวัคซีนมากที่สุด มีการเตรียมผ่อนคลาย 5 กิจการ แต่จะต้องมีข้อเสนอมาให้พิจารณาเนื่องจากจำเป็นที่จะต้องปลดล็อค เพื่อลดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ให้ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ เป็นสถานที่ฉีดวัคซีนของบุคลากรข้าราชการทั่วไป ส่วนโรงพยาบาลทหารให้ทหาร และตำรวจฉีดวัคซีน
ในช่วงหนึ่งของการประชุมนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้รายงานยอดหนี้ครัวเรือนที่มีถึง 89 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพี ซึ่งถือว่าสูง เนื่องจากอยู่ในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 เศรษฐกิจตกต่ำ จึงทำให้หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงขึ้น ซึ่งพบว่าในช่วงวัยทำงานระหว่าง 25-35 ปี สัดส่วนเป็นหนี้สูง มีหนี้เยอะ และพบปัญหาเรื่องหนี้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้ครู เป็นหนี้ที่กู้ยืมจากสหกรณ์ อยู่ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงศึกษาธิการ และสถาบันทางการเงิน ซึ่งพบว่ามีบุคลากรครูเป็นหนี้จำนวนมากถึงล้านล้านบาทถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นปัญหามาก
ทั้งนี้ นายกฯสั่งการว่าให้กระทรวงการคลังประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วนำเสนอแผนดำเนินการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน รวมถึงเรื่องดังกล่าวยังเกี่ยวข้องกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ดูเรื่องข้อกฎหมายด้วย จึงขอให้เสนอแนวทางแก้ปัญหาเข้ามา