No data was found

“คณะก้าวหน้า” ไม่แยแสกฎเหล็ก “กกต.” เดินหน้ารณรงค์หาแนวร่วมลงสมัครส.ว.ทำเป็นฟุ้งคงกลัว “ส.ว.ส้ม” พาเหรดเข้าสภาสูง

กดติดตาม TOP NEWS

"คณะก้าวหน้า" ไม่แยแสกฎเหล็ก "กกต." เดินหน้าอัดแคมเปญรณรงค์หาแนวร่วมลงสมัคร ส.ว.ต่อไป ทำเป็นฟุ้งคงกลัว ส.ว.ส้มพาเหรดเข้าสภาสูง ซัด "กกต." ต้องมีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองในกระบวนการเลือกตั้ง หรือสรรหาผู้มีตำแหน่งทางการเมืองทุกครั้งไม่ใช่หรือ

TOP News รายงานข่าว น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ และโฆษกคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกกฎเหล็ก 8 ข้อห้าม จูงใจหรือชี้ชวนบุคคลให้สมัครเป็น ส.ว. ว่า เรื่องนี้ต้องแยกให้ชัดว่า กกต.กำลังทำอะไรอยู่กันแน่ วันนี้มีความเคลื่อนไหวจาก กกต. 2 ชุด ชุดแรกเป็นการออกระเบียบของ กกต.ว่าด้วยการแนะนำตัวผู้สมัคร สว.โดยระเบียบนี้ ตนอ่านแล้วก็สบายใจว่าสอดคล้องกับที่ประธาน กกต.เคยพูดไว้ว่าการรณรงค์เชิญชวนคนไปสมัคร สว.ของคณะก้าวหน้าไม่ผิดกฎหมายอะไร เพราะก็ทำแบบเดียวกับ กกต.คือเชิญชวนคนไปมีส่วนร่วมทางการเมือง ตัวระเบียบนี้ก็ออกมาชัดเจนว่าสามารถมีผู้ช่วยแนะนำตัวได้ ซึ่งคล้ายกับผู้ช่วยหาเสียงในกรณีของ ส.ส.

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

กังขา “กกต.” ใช้อำนาจอะไรมาห้าม เว็บไซต์ Senate 67 ผิดระเบียบข้อไหน

“ในส่วนของระเบียบไม่ได้มีปัญหาอะไร อาจจะมีข้อจำกัดเรื่องการแนะนำตัวทางออนไลน์ แต่ภาพรวมตอนอ่านระเบียบ เราก็รู้สึกว่าไม่ได้มีปัญหาหรือกระทบกับแคมเปญ โดยเฉพาะแคมเปญ สว.ประชาชนของคณะก้าวหน้า” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

น.ส.พรรณิการ์ ยังกล่าวว่า ในขณะเดียวกัน กกต.ก็ออกประกาศโพสต์ในเฟซบุ๊กอีก ระบุชัดเจนว่าการรวมกลุ่มการแสดงตัวในหน้าเว็บไซต์ไม่ถูกต้อง กกต.เก็บข้อมูลไว้แล้ว มีการกล่าวในลักษณะว่าให้หยุดการกระทำ หากไม่หยุดจะถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ซึ่งหากเอาให้ชัดคือ “ไม่ใช่แคมเปญของคณะก้าวหน้า” แต่ กกต.กำลังพุ่งเป้าไปที่เว็บไซต์ Senate 67 ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของภาคประชาชน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคณะก้าวหน้า เพียงแต่เวลาเรารณรงค์ให้ประชาชนลงไปสมัคร สว.เราก็เเนะนำว่าให้ไปแสดงตัวในเว็บไซต์นี้ เพราะเป็นข้อมูลเปิด (Open source) ให้ประชาชนเข้าไปดูได้ว่ามีใครบ้าง เพื่อให้ประชาชนทำการบ้านไปก่อน ถือเป็นเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชน

“เมื่อ กกต.โพสต์เฟซบุ๊กแบบนี้ คำถามแรกก็คือแม้จะไม่ได้กระทบอะไรกับคณะก้าวหน้า แต่ กกต.ใช้อำนาจอะไร เพราะในระเบียบของ กกต.ที่ออกมาในวันเดียวกัน ไม่มีข้อไหนเลยนะคะที่บอกว่าห้าม Senate 67 ไม่สามารถตีความได้เลยว่าเว็บไซต์ Senate 67 ผิดระเบียบข้อไหน แล้วทำให้ตั้งคำถามได้ต่อไปว่า กกต.เอาอำนาจใหม่มาบังคับใช้” น.ส.พรรณิการ์ กล่าวและว่า เราคงต้องถาม กกต.ไปให้ดังๆ ว่าผิดข้อไหน เพราะในระเบียบไม่ได้ห้าม แต่กลับมาประกาศออกเฟซบุ๊ก

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ก็ไม่รู้ว่าโพสต์ทางเฟซบุ๊ก มันมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายได้อย่างไร ถึงแม้จะเป็นโซเชียลมีเดียของ กกต.ก็ตาม เรื่องนี้ดิฉันคิดว่า กกต.ต้องมีความตอบที่ชัดเจน และที่สำคัญที่สุด กกต.เองมีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองในกระบวนการเลือกตั้ง หรือสรรหาผู้มีตำแหน่งทางการเมืองทุกครั้งไม่ใช่หรือ Senate 67 ไม่ได้เข้าข้างใคร เป็นเว็บไซต์ที่ใครประสงค์จะสมัครเป็น สว.ก็เข้าไปเสนอตัวได้ทั้งหมด มีแต่อำนวยความสะดวกให้ประชาชน ถ้า กกต.บอกว่าผิดกฎหมายคิดว่าเรื่องนี้เป็นการจงใจทางการเมืองแล้ว

น.ส.พรรณิการ์ ตั้งคำถามว่ามีความกังวลอะไรหรือไม่ กลุ่มทางการเมืองใดที่จะได้ประโยชน์จากเว็บไซต์นี้ จึงมีความพยายามที่จะขัดขวาง ออกลายเป็นว่า กกต.เองหรือไม่ ที่พยายามเล่นการเมืองกับเรื่องนี้

“คณะก้าวหน้า” ไม่แคร์กฎเหล็ก “กกต.” เดินหน้ารณรงค์ต่อไป

เมื่อถามว่า เป็นการตัดตอนคนที่ประสงค์จะลงสมัครหรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า แน่นอนอยู่แล้ว ตนได้ยินข่าวลือมาว่ามีความกังวลมากเรื่อง สว.สีส้ม ตนก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าสีส้มคืออะไรกันแน่ แต่มีความกังวลกันว่าเดี๋ยวจะได้มาเยอะและพยายามหาช่องทางที่จะสกัดกั้น โดยการให้ใบแดงกับบุคคลเหล่านี้ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เพราะเรื่องยังไม่เกิดขึ้น มันจึงเกิดความพยายามอะไรประหลาดๆ ขึ้นมา เพื่อจะให้สิ่งถูกกฎหมายแกเป็นสิ่งผิดกฎหมายให้ได้ พร้อมย้ำว่า การรณรงค์ของคณะก้าวหน้าก็ยังดำเนินต่อไป เพราะไม่มีอะไรผิดกฎหมายอยู่แล้ว เป็นเพียงการเชิญชวนให้ประชาชนไปสมัคร และหาก Senate 67 ผิด กกต.สามารถมีระบบรองรับให้ประชาชนเข้าไปดูข้อมูลผู้สมัครได้หรือไม่ เพราะเห็นว่ามีการคาดการณ์ว่ามีผู้สมัคร 300,000 คน

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะไม่มีคนลงชื่อใน Senate 67 น.ส.พรรณิการ์ ระบุว่า ตนตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นเจตนารมย์ที่แท้จริงที่ออกประกาศทางเฟซบุ๊ก คือต้องการให้ผู้สมัครกลัว กังวล ถอนชื่อออกไป และไม่ลงชื่อเพิ่ม

“ดิฉันก็ไม่รู้ว่าจะกลัวอะไร แต่ชัดเจนว่ากลัว ถึงแม้จะไม่มีกฎหมายรองรับ แต่ก็ต้องมีปฎิบัติการทางจิตวิทยาอะไรบางอย่างที่ทำให้ประชาชนกลัวและถอนชื่อออกไป และไม่ลงชื่อเพิ่ม” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

ส่วนจะทำอย่างไรต่อไปนั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ในนามของคณะก้าวหน้าคงเดินหน้าต่อไป และคงต้องถามไปที่ผู้จัดทำเว็บไซต์ Senate 67 ซึ่งเป็นภาคประชาสังคม ทางฝั่งผู้ที่รับผิดชอบเว็บไซต์นี้ควรต้องต่อสู้ให้ถึงที่สุด ซึ่งมีหลายช่องทาง ทั้งการถามตรงไปที่ กกต.หรือการฟ้องศาลปกครอง มองว่าเราควรต้องทำ เพราะไม่ควรให้องค์กรอิสระลุแก่อำนาจ ในการทำอะไรที่เกินตัวบทกฎหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567
ตำรวจ รวบหนุ่มเพื่อนบ้าน ถือปืนขู่
ครอบครัววอนช่วยตามหาญาติหายตัวขณะเที่ยวไทย
กองทุนกำลังใจฯ "เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ" เปิดอบรมหลักสูตร Care Giver หลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอาย ณ ทัณฑสถานหญิงกลาง
อัยการยื่นฟ้อง "ฮาร์ท- สุทธิพงศ์" เอาผิดคดีม.112 โพสต์หมิ่นเบื้องสูง เมื่อปี 64
FBI ชี้เป้า จับหนุ่มก้ามปู ชาวมะกัน หนีข้ามแดน บีบคอเหยื่อ บังคับค้ากาม หนีกบดานไทย
"แบงค์ ศรราม" เคลียร์ชัดทุกปม หลัง "นุ่น ดำดง" ขอลาออก ทำงงกันทั้งคณะลิเก
นักปีนเขาติดบนหน้าผาในจีน 1 ชม.เหตุแออัด (คลิป)
ของแท้ปังสุด ๆ “ลิซ่า” คนไทยคนแรก สร้างตำนานโบกธงF1 ตามรอยคนดังฝั่งอเมริกา
กัวลาลัมเปอร์โกลาหล ต้นไม้ใหญ่ล้มกลางกรุง ตาย 1 (คลิป)

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น