วันที่ 23 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 10/1 หลังสถานีรถไฟวังวัว หมู่ 6 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสถานที่เก็บตัวหุ่นเปรตเดือนสิบของจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่เนื่องจากในปีนี้มีการแพร่ระบาดของไวรัสวโควิด-19 รุนแรงจนจังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องประกาศยกเลิกการจัดกิจกรรมงานบุญสารทเดือนสิบ ประจำปี 2564 ไปโดยปริยาย โดยบรรดาหุ่นเปรตทั้งหมดที่ตามปกติจะต้องมีการปรับปรุงซ่อมแซมและจัดสร้างใหม่เพิ่มเติมเพื่อนำไปติดตั้งในการจัดนิทรรศการหุ่นเปรต-พาเหรดเปรต ในงานเทศกาลเดือนสิบต่อเนื่องทุกปี เป็นปีที่ 17 จึงไม่ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมและจัดสร้างเพิ่มเติม หุ่นเปรตทุกตนถูกเก็บขังไว้ในโรงในสภาพที่ยังดี ใช้งานได้ตามปกติ แต่สีสันอาจจะจืดจ่างไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตามประชาชนที่เดินทางมามาดื่มน้ำชา -กาแฟ ที่ร้านหน้าโรงเก็บหุ่นเปรต รวมทั้งมีพ่อแม่ ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปที่ทราบว่าหุ่นเปรตเดือนสิบเมืองนคร ถูกจัดเก็บไว้ในสถานที่ดังกล่าวนำบุตรหลานทยอยเดินทางมาเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง และกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “เปรตถูกกักตัวโควิด น่าเสียดายที่ไม่มีกิจกรรมนิทรรศการประกวดหุ่นเปรตพาเหรดเปรต รวมทั้งไม่มีการจัดงานเทศกาลบุญสารทเดือนสิบในปีนี้ และเด็กกล่าวว่า “เปรตโดนกัดตัวโควิด” ออกมาร่วมกิจกรรมเหมือนทุก ๆ ปีไม่ได้
โดย ด.ช.ยุทธภานุ แต่งวงศ์ หรือ “น้องเอวา หรือ น้องเดือนสิบ ”ได้สอบถามผู้ปกครองว่าในปีนี้มีเปรตไหม เมื่อทราบว่าไม่มีการจัดนิทรรศการหุ่นเปรต น้องเอาวา จึงรบเร้าให้ผู้ปกครองนำไปเยี่ยมและเล่นหยอกล้อกับหุ่นเปรตแทน ทั้งนี้ “น้องเอวา หรือน้องเดือนสิบ” เป็นเด็กที่คลอดในช่วงการจัดนิทรรศการประกวดหุ่นเปรต -พาเหรดเปรต”งานเทศกาลบุญสารทเดือนสิบเมืองนครศรีธรรมราช ในปี 2558 ซึ่งในปีดังกล่าวตรงกับวันที่ 12 ก.ย. 2558 ผู้ปกครองจึงตั้งชื่อ “น้องเดือนสิบ” เพื่อระลึกถึงการจัดงานนิทรรศการประกวดหุ่นเปรต-พาเหรดเปรต”บุญสารทเดือนสิบเมืองนคร และมีความรักความผูกพันกับหุ่นเปรตเป็นอย่างมาก จะให้ผู้ปกครองนำมาร่วมกิจกรรมทั้งในลานกิจกรรมและในขบวนพาเหรดเปรตต่อเนื่องกันมาทุกปี รบเร้าให้ผู้ปกครองพามาเยี่ยมหุ่นเปรต
นายไพฑูรย์ อินทศิลา สื่ออาวุโสประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ประธานจัดนิทรรศการประกวดหุ่นเปรต-พาเหรดเปรตเดือนสิบเมืองนครต่อเนื่อง 17 ปี จนได้รับการยกฐานะเป็น “ประธานาธิบดีเปรต” กล่าวว่า เทศกาลบุญสารทเดือนสิบเป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัดนครศรีธรรมราชและภาคใต้ มีการจัดสืบทอดกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2466 แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงมีมติงดจัดงานเทศกาลบุญสารทเดือนสิบในปีนี้ หากมีการจัดงานในปีนี้จะเป็นการจัดปีที่ 98 โดยช่วงเทศกาลเดือนสิบจะเริ่มตั้งเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือนสิบ ซึ่งเป็นแรกของการวันเข้าสู่ช่วงเทศกาลบุญสารทเดือนสิบ เรียกว่า “บุญรับตายาย ,บุญรับเปรต หรือบุญแรก “ ตามคติความเชื่อว่าเป็นวันที่นรกภูมิจะเปิดประตูปล่อยเปรตหรือบรรพบุรุษบรรพชนกลับมาเยี่ยมบุญหลานบนโลกมนุษย์รวม 15 ราตรี หรือ 15 วัน เพื่อขอรับส่วนบุญกุศลกลับไปไถ่บาป ไถ่โทษในนรกภูมิ เรียกวันนี้ว่าวัน “ทำบุญรับตายาย,บุญแรก,และบุญรับเปรต” “ทุกปีที่ผ่านมาในวันแรม 1 ค่ำ เดือนสิบ หรือวันทำ“บุญรับตายาย ,บุญรับเปรต หรือบุญแรก” ในปีนี้ตรงกับวันที่ 22 ก.ย. 2564 จากนั้นในแรม 13 ค่ำ ปีนี้ตรงกับวันที่ 4 ต.ค. 2564 จะเป็นจ่ายและจัดขบวนแห่หุ่นเปรต-ประกวดหุ่นเปรต จนเมื่อถึงวันแรม 14 ค่ำ เดือนสิบ ในปีนี้ตรงกับวันที่ 5 ต.ค. 2564 เป็นวันยกหฺมฺรับ และสุดท้ายวันแรม 15 ค่ำ เป็นวันทำบุญสุดท้ายของเทศกาลสราทเดือนสิบ เรียกว่า “บุญส่งตายาย,บุญส่งเปรต” โดยจะมีการจัดกิจกรรม “ชิงเปรต” อย่างสนุกสนานส่งท้ายเทศกาลบุญสารทเดือนสิบ”
ประธานาธิบดีเปรต กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามการจัดงานบุญสารทเดือนสิบที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมกรรมทางศาสนานั้น ตามวัดต่าง ๆ ก็ยังคงจัดกิจกรรมตามปกติ โดยเฉพาะวัดเขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างโบสถ์ หลังจากการเดินธุดงค์ธรรมายาตรา 810.4 กม. “กรุงเทพมาหานคร” รวม 32 วัน โดยในช่วงผ่านตัวเมืองนครศรีธรรมราชมีสองพระเอกนักบุญ บิณฑ์-เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ และทีมงานลงมาช่วย ซึ่งโครงการนี้สามารถรวบรวมปัจจัยได้เกือบ 3 ล้านบาท ซึ่งกิจกรรมบุญสารทเดือนสิบในปีนี้หลังจกรัฐบาลปลดล็อคพืชกระท่อมทางวัดและชาวบ้านได้ร่วมกันทำขนมเดือนสิบผสมพืชกระท่อมทั้งใบที่นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และคั่นเอาน้ำมาผสมกับแป้งขนมเดือนสิบ นับเป็นการทำขนมเดินสิบผสมพืชกระท่อมแห่งแรกของโลกก็ว่าได้ โดยจะมีชาวพุทธเดินทางมาร่วมกิจกรรมจำนวนมากท่ามกลางมาตรการควบคุมป้องกันไวรัสโควิดอย่างเคร่งครัด และยังร่วมกันบริจาคเงินสร้างโบสถ์วัดเขาพระทองอีกด้วย สำหรับผู้ที่ศรัทธาและต้องการร่วมบริจาคสมทบก็สามารถบริจาคได้โดยโอนเงินเข้าบัญชีกองทุนเสบียงบุญสร้างโบสถ์วัดเพระทอง ธนาคารกรุงไทย เลขบัญชี 822-0-63803-6 นายไพฑูรย์ กล่าวในที่สุด.
ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช