วันที่ 4 ก.ย. 2564 ที่ จ.สงขลา พบว่ามีการนำแบงค์พันปลอมมาหลอกซื้อสินค้าหลายใบในพื้นที่หมู่5 บ้านดอนขี้เหล็ก ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา และคนที่โชคร้ายเป็นเจ้าของร้านขายของชำในหมู่บ้านบ้านดอนขี้เหล็ก ชื่อว่าน.ส.เป๊าะ สายสะอิด อายุ 68 ปี ซึ่งพิการทางสายตาโดยตาขวาบอดสนิทตาสายมองเห็นเลือนลาง และอยู่ตัวคนเดียวไม่มีครอบครัว อาศัยเปิดร้านขายของชำเล็กน้อยๆหารายได้ไปวันๆ มีญาติพี่น้องคอยช่วยซื้อของมาให้ขาย แต่ปรากฏว่าเมื่อราว2 วันก่อนได้มีชายหญิงคู่หนึ่งนำแบงค์พันปลอมมาหลอกซื้อของวันเดียวถึงสองครั้งซ้อน โดยช่วงเช้ามาซื้อของเป็นเงิน200กว่าบาท คุณยายเป๊าะจึงทอนให้ไป700 กว่าบาท และครั้งที่สองก็มาอีกในช่วงบ่าย ซื้อของในราคาใกล้เคียงกันและยายเป๊าะ ก็ทอนเงินไป700 กว่าบาทเหมือนเดิม ซึ่งตอนรับเงินคุณยายเป๊าะ ก็ใช้วิธีนำแบงค์พันมาดูใกล้ๆตาก็เห็นรูปในหลวงรัชกาลที่10 ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นของจริง มารู้อีกทีตอนเช้าที่เพื่อนบ้านมาขอแลกเงินและบอกว่าเป็นแบงค์พันปลอมทั้งสองใบ
คุณยายเป๊าะ บอกว่า ตอนที่ชายหญิงคู่นี้มาซื้อของก็ถามว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครทั้งสองคนก็บอกว่าเป็นคนในหมู่บ้านโดยฝ่ายชายอ้างว่าเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมาก็เลยไม่ได้คิดอะไรคิดว่าเป็นลูกๆหลานๆในหมู่บ้าน ไม่คิดว่าจะมาหลอกกันแบบนี้และก็ไม่ได้เอะใจว่าเป็นแบงค์พันปลอมเพราะตาก็มองไม่ค่อยชัดจึงทอนเงินไป หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองสงขลา แล้วและตำรวจได้ลงพื้นที่มาติดตามหาตัวชายหญิงคู่นี้ปรากฏว่าไม่อยู่แล้วและกำลังอยู่ระหว่างการติดตามหาตัว คุณยายเป๊าะ บอกว่าแม้จะนำแบงค์พันปลอมมาหลอกซื้อของถึงสองพันก็ไม่ได้คิดโกรธและให้อภัยแต่ขออย่าไปทำกับใครอีก
ซึ่งในพื้นที่บ้านดอนขี้เหล็กนอกจากจะมีการนำแบงค์พันมาหลอกซื้อสินค้ากับยายเป๊าะ หญิงสูงอายุพิการทางสายตาคนนี้ถึงสองพันบาทแล้ว ยังมีคนในหมู่บ้านเดียวกันอีก1คนที่มีการนำแบงค์พันมาหลอกซื้อสินค้าด้วย ชาวบ้านจึงต้องการเรียกร้องให้ตำรวจเร่งตรวจสอบที่มาที่ไปของแบงค์พันปลอม เพราะเชื่อว่าน่าจะมีการนำไปใช้กับร้านค้าอื่นๆอีก และเตือนให้เจ้าของร้านค้าโดยเฉพาะร้านขายของชำในหมู่บ้านตรวจสอบแบงค์พันให้ดี
นภาลัย ชูศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สงขลา
