กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน โครงการเราชนะเฮ คลังโอนเงิน 7000 บาทให้วันนี้ ใช้จ่ายได้ถึง 30 มิ.ย. คลังสรุปเราชนะคนไทยได้สิทธิ 32.8 ล้านคน โวหมุนเวียนเศรษฐกิจไทยได้ 2 แสนล้าน
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ หรือ “กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน” ที่ไม่สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com หรือไม่สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นเป๋าตังได้นั้น เตรียมรับเงินเยียวยา 7,000 บาท รวดเดียว ในวันนี้ ( 22 เมษายน 2564 ) ผ่านบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด
ทั้งนี้สำหรับกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ภาครัฐได้เปิดลงทะเบียนไปตั้งแต่ 8-26 มีนาคม 2564 ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบสถานะแล้ว หากพบว่าผ่านเกณฑ์การคัดกรองคุณสมบัติ จะได้รับเงินในวันนี้จำนวน 7,000 บาท ซึ่งสามารถนำไปใช้กับร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการ ได้แก่ ร้านธงฟ้าที่มีเครื่อง EDC ร้านถุงเงินธงฟ้า ร้านค้าคนละครึ่ง และร้านค้าเราชนะ อนึ่งก่อนหน้านี้ ทางครม.ได้ขยายการใช้สิทธิ์เราชนะจากเดิม สามารถใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เป็นใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2564 นี้
ความคืบหน้าการดำเนินโครงการเราชนะ ณ วันที่ 21 เมษายน 2564
1. ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,254 ล้านบาท
2. ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ .com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 113,233 ล้านบาท
3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.3 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 14,247 ล้านบาท
ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯนี้ รวมจำนวน 32.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยกว่า 200,734 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ