นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวว่า วัคซีนเพิ่มเติมจากโปแลนด์กำลังจะมาถึง และวัคซีนมากกว่าครึ่งหนึ่งจะถูกส่งไปยังรัฐนิวเซาท์เวลส์ เพื่อฉีดให้ผู้ที่มีอายุ 20-39 ปี เนื่องจากมีรายงานว่าพบการติดเชื้อติดต่อกันเพิ่มมากขึ้น และขอประชาชนยังคงไม่ออกไปไหนหากไม่จำเป็น
นายมอร์ริสันกล่าวต่อว่า วัคซีนปริมาณใหม่จำนวน 530,000 โดส จะได้รับการจัดส่งด่วนไปยังพื้นที่ของรัฐบาลท้องถิ่นในซิดนีย์ 12 แห่ง ส่วนที่เหลืออีก 470,340 จะถูกแจกจ่ายไปยังรัฐอื่น ๆต่อไป
รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุด รายงานผู้ป่วยโควิด 19 รายใหม่ในพื้นที่ 415 ราย จากที่ไม่กี่วันก่อนมีถึง 466 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากการระบาดครั้งล่าสุดของรัฐนิวเซาท์เวลส์ อยู่ที่ 46 ราย
ส่วนในรัฐวิกตอเรีย มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 25 ราย เพิ่มขึ้นจาก 21 รายเมื่อวันก่อน ขณะที่เมลเบิร์นซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย ยังคงต้องเผชิญกับการขยายเวลาล็อกดาวน์เช่นกัน
นายมอร์ริสันตกอยู่ภายใต้แรงกดดันสำหรับการเปิดตัววัคซีนที่ล่าช้า โดยขณะนี้ มีประชากรชาวออสเตรเลีย ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ครบโดสแล้วเพียงร้อยละ 24 เท่านั้น และวัคซีนยังมีจำนวนไม่เพียงพอ รัฐบาลออสเตรเลียให้คำมั่นว่าจะยุติการล็อคดาวน์ เมื่อประชากรเกือบ 26 ล้านคนในประเทศได้รับการฉีดวัคซีน หรือคิดเป็นร้อยละ 70 ของประชากรทั้งหมด
สำหรับโปแลนด์ ผู้คนได้รับวัคซีนครบแล้วกว่า 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด 38 ล้านคน