พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ จากบ้านพัก เนื่องจากอยู่ระหว่างกักตัวเป็นวันที่ 8 แล้ว โดยสุขภาพร่างกายของนายกรัฐมนตรีแข็งแรงเป็นปกติดี และผลตรวจเชื้อแบบ SWAB 2 ครั้ง ในระหว่างกักตัวออกมาเป็นลบไม่พบเชื้อใด ๆ
โดยวาระสำคัญในการประชุมครม.ที่น่าจับตาในวันนี้ อยู่ที่มาตรการเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการ 10 จังหวัดที่รับผลกระทบตามประกาศฉบับที่ 27 ที่มีคำสั่งเคอร์ฟิว ห้ามการเดินทางในช่วงเวลา 21.00-04.00น.อย่างน้อย 14 วัน ห้างสรรสินค้า ศูนย์การค้าต่าง ๆ เปิดได้เฉพาะในส่วนสินค้าอุปโภค บริโภค ร้านอาหาร ร้านยา เวชภัณฑ์ ที่จำเป็นเท่านั้น
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า มาตรการที่จะเสนอให้กับ ครม.พิจารณาเป็นลักษณะเดียวกับมาตรการที่ ครม.มีการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ฉบับที่ 25 ได้แก่ กลุ่มธุรกิจและแรงงานก่อสร้าง ร้านอาหารและศิลปะ บันเทิง สันทนาการ
ในขณะที่การประกาศล็อกดาวน์ครั้งนี้มีคำสั่งให้ปิดกิจการเพิ่ม ได้แก่ สถานเสริมความงาม ร้านนวดเพื่อสุขภาพ สปา ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการและแรงงานในธุรกิจดังกล่าวได้รับการจ่ายเงินเยียวยาในลักษณะเดียวกัน โดยได้มีการนำแนวทางดังกล่าวมาใช้พิจารณากำหนดการเยียวยาในครั้งนี้ ซึ่งแบ่งเป็นแรงงานในระบบประกันสังคม กลุ่มลูกจ้างจะได้รับเงิน 50% ของค่าแรง แต่ไม่เกิน 7,500 บาท แรงงานสัญชาติไทยได้รับเงินพิเศษอีก 2,000 บาทต่อราย ส่วนกลุ่มนายจ้างหรือผู้ประกอบการได้รับเงินช่วยเหลือ 3,000 บาทต่อราย แต่ไม่เกิน 200 คน
ส่วนกิจการที่อยู่นอกระบบประกันสังคมก็จะได้รับความช่วยเหลือโดยต้องยื่นลงทะเบียนกับระบบประกันสังคมภายใน 1 เดือน โดยลูกจ้างสัญชาติไทยได้รับเงินเยียวยาคนละ 2,000 บาท และนายจ้างได้รับความช่วยเหลือ 3,000 บาทต่อราย แต่ไม่เกิน 200 คนเช่นกันโดยมาตรการนี้เป็นการจูงใจให้แรงงานเข้าสู่ระบบ
ส่วนระบบการลงทะเบียนที่เดิมเคยให้มีการใช้งานการลงทะเบียนผ่านระบบแอปพลิเคชันเป๋าตังค์จะมีการปรับปรุงให้ลงทะเบียนในช่องทางอื่นแทนเพื่อให้ง่ายต่อการเก็บข้อมูลและอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการ ซึ่ง สศช.จะมีการรายงาน ครม.ในการประชุมครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีวาระที่น่าจับตา ครม.จะอนุมัติขยายระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทุกเขตพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. – 30 ก.ย.ตามมติศบค. และ การแต่งตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีแคนดิเดต คือ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง และนายนิสิต จันทรสมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม