บรรยากาศบริเวณด่านตรวจเกาะหม้อแกงฝั่งขาเข้า ต.ท่ากำชำ อ. หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นด่านรอยต่อระหว่างจังหวัดสงขลาและจังหวัดปัตตานี และเป็นประตูด่านแรกก่อนเข้า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และเมืองปัตตานี โดยมีการตั้งด่านตรวจ 24 ชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย อาทิ ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน จ.ปัตตานี ตั้งด่านตรวจเข้มควบคุมการเดินทางเข้า-ออก ระหว่างจังหวัด ซึ่งมีการตรวจเอกสารรับรองความจำเป็นการขออนุญาตเข้า-ออกเดินทางไปนอกพื้นที่จังหวัดปัตตานี เป็นไปตามคำสั่งจังหวัด เรื่องการจัดตั้งด่านตรวจ/จุดสกัดเข้มข้น ในพื้นที่ เพื่อป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
สำหรับด่านตรวจเกาะหม้อแกงฝั่งขาเข้า จะแบ่งเป็น 2 ช่อง แยกช่องซ้ายสำหรับผู้ที่เข้าจังหวัดปัตตานี และช่องขวาผู้ที่เดินทางไปยังจังหวัดยะลา และ นราธิวาส โดยผู้ที่จะผ่านได้นั้นจะต้องมีใบเอกสารรับรองที่สามารถสัญจรข้ามจังหวัดได้เท่านั้น โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารของรถที่ผ่านมาทุกคัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นในส่วนของรถบรรทุกที่ขนส่งสินค้าไปมาระหว่างจังหวัดและ รถยนต์ส่วนบุคคลที่เดินทางไปทำธุระหรือกลับบ้านในจังหวัดยะลา และนราธิวาส ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฯ และอสม. ก็ได้ตรวจคัดกรองเฝ้าระวังโรคติดเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ที่เดินทางเข้า-ออกจังหวัดปัตตานี โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด (สีแดงเข้ม) ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, นครปฐม, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสงคราม, ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส, และจังหวัดสงขลา โดยในภาพรวมประชาชนที่เข้า-ออกในพื้นที่ต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ขณะที่ คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ตรัง ก็ได้มีมติยกระดับมาตรการควบคุมป้องกันพื้นที่เข้มข้น เพื่อเป็นการป้องกันควบคุมคนจากต่างจังหวัดเดินทางเข้ามาให้พื้นที่ ให้ยกระดับด่านตรวจคัดกรองขึ้นเต็มรูปแบบจาก 2 ด่าน เป็น 4 ด่าน ทั้ง 4 มุมเมือง พื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดทั้งหมด โดยขอให้ประชาชนชาวตรัง งด ชะลอ หรือหลีกเลี่ยง การเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงสูงและควบคุมเข้มงวดทั้ง 10 จังหวัด หากคนมาจากพื้นที่เข้มงวดควบคุมสูงสุดจำนวน 10 จังหวัด รวมทั้งพื้นที่ควบคุมสูงสุดอีก 24 จังหวัด รวมทั้ง 34 จังหวัด จะต้องกักตัวทั้งหมดเป็นเวลา 14 วัน หรือตลอดระยะเวลาที่อยู่จังหวัดตรัง เว้นแต่มีผลตรวจแบบเรียลไทม์ พีซีอาร์ เป็นลบ หรือว่ามีการฉีดวัคซีน 2 เข็ม สำหรับพี่น้องมุสลิมในช่วงการปฏิบัติศาสนกิจละหมาดอีฎิ้ลอัดฮา ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1442 ให้งดการละหมาดในมัสยิด ห้ามการเยี่ยมญาติ และเยี่ยมกุโบว์ โดยให้ละหมาดอยู่ที่บ้านเฉพาะคนที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน งดรวมกลุ่มคนอย่างเด็ดขาด
ขณะเดียวกันพบมีการลักลอบเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติจากจังหวัดใกล้เคียงมาตรวจหาเชื้อโควิดที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง โดยที่รพ.เอกชนดังกล่าว เห็นแก่ผลประโยชน์รับตรวจ แต่พอผลออกเป็นบวก คนนำแรงงานกลับพาแรงงานหนี รพ.เอกชนดังกล่าวจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ โดยทำมาแล้ว 2 ครั้ง มีแรงงานหลุดรอดไปได้จำนวน 9 ราย
ด้าน นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในฐานะผู้กํากับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (รักษาราชการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม) รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ปลัดจังหวัด และนายอำเภอเมืองนครปฐม ร่วมปล่อยแถวระดมกำลังในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมแบบบูรณาการ เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมทั้งจัดระเบียบตามมาตรการ การห้ามออกนอกเคหสถาน ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม 2564 จังหวัดนครปฐมจึงได้ร่วมปล่อยแถวปฏิบัติตามมาตรการควบคุมแบบบูรณาการ เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี ข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ตำรวจทางหลวง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ทหารจากกรมการสัตว์ทหารบก กำลังอาสาสมัครฝ่ายปกครอง รวมทั้งมูลนิธิ องค์กรการกุศล ภาคเอกชนต่างๆ เข้าร่วมปล่อยแถวในครั้งนี้
ขณะที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครออกคำสั่งตั้งจุดตรวจ 4 จุด ล็อคดาวน์คนเดินทางเข้า-ออก นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้ออกคำสั่งตั้งจุดตรวจร่วม จำนวน 4 แห่ง ได้แก่
จุดที่ 1 บริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ตรงข้ามโรงเรียนศึกษานารี ถนนเอกชัย (ขาเข้า) หมู่ที่ 6 ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร
จุดที่ 2 บริเวณหน้าหน่วยบริการประชาชนสาริน ถนนเจษฎาวิถี-สาริน หมู่ที่ 7 ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร
จุดที่ 3 บริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ถนนพุทธสาคร (ขาเข้า) หมู่ที่ 4 ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน
จุดที่ 4 บริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมันบางจาก (สหกรณ์การเกษตรบ้านแพ้ว) ถนนบ้านแพ้ว-พระประโทน หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านแพ้ว อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร