วันที่ 21 มิถุนายน 2564 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการสนับสนุนและขับเคลื่อนโครงการ“ฮักไทย (HUG THAIS)”รวมใจ ไทยไม่ทิ้งกัน ระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า โครงการ HUG THAIS เป็นความร่วมมือระหว่าง ททท. และ หอการค้าไทย เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการไทย รวมทั้งส่งเสริมการกระตุ้นการใช้จ่ายจากการกิน-เที่ยว-ใช้ ผลิตภัณฑ์ของไทย
รวมถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะเปิด Phuket Sandbox ในวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบแล้วสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน แต่ต้องพำนักในที่พักหรือโรงแรมที่ได้รับรองเครื่องหมาย SHA+ หรือสัญลักษณ์มาตรฐานของการท่องเที่ยวปลอดภัยด้านสุขภาพอนามัยเพื่อยืนยันมาตรการความปลอดภัย
ขณะที่โครงการฮักไทยนั้นจะครอบคลุมทั้งการยกระดับสินค้ารับประกันการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรวมถึงการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความมั่นใจและกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว โดยจะเริ่มนำร่อง ในโครงการ “ฮักไทย ฮักภูเก็ต” จ.ภูเก็ต ในเดือนกรกฎาคม 2564 นี้
ด้านความคืบหน้าของโครงการ Phuket Sandbox ที่จะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ก.ค.นี้ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ประเทศไทย มีความพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว ก่อนจะดำเนินการเปิดรับนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่อื่นๆ อาทิ เกาะสมุย จังหวัด สุราษฏร์ธานี พังงา และกระบี่ และขยายไปยังจังหวัดที่มีความพร้อมต่อไป แต่ทั้งนี้ จะต้องมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่ อย่างน้อย 70% ของประชาชนในพื้นที่ และผู้ที่อยู่ในสถานประกอบการ ต้องได้รับวัคซีน 100 % เนื่องจากเป็นบุคลากรด่านหน้าในการรับนักท่องเที่ยว
ส่วนกรณีที่มีประชาชนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากนักเรียนที่ติดเชื้อโควิดจากพื้นที่จังหวัดภาคใต้ เชื่อ ว่ากระทรวงสาธารณสุข จะบริหารจัดการได้
นอกจากนี้ จังหวัดภูเก็ตได้มีการประมาณการยอดผู้ติดเชื้อโควิดไม่เกิน 90 ราย จะสามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่หากมีผู้ติดเชื้อเกิน 90 ราย จะหารือ ว่าจะเปิดต่อหรือ ย้ายพื้นที่ไปยังจังหวัดที่ได้สำรองไว้ โดยจะมอบหมายให้ททท. ดำเนินการประชาสัมพันธ์ ให้นักท่องเที่ยวทราบต่อไป
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่จะนำเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เบื้องต้นในเดือนก.ค. จะมีการนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประมาณ 200 ราย โดยเป้าหมายการทำตลาดอยู่ที่ 100,000 แสนราย และมีเป้าหมายรายได้ที่ 8,900 ล้านบาท ใน 3 เดือน โดยเบื้องต้นได้รับการยืนยันว่า ในวันที่ 1 ก.ค. จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 5 เที่ยวบิน และทยอยบินเข้ามาในประเทศ อย่างน้อย 200 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และยอดจำนวนบุ๊คกิ้ง เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากความแน่ชัดในการเปิดการท่องเที่ยว ดังนั้นการประกาศเปิดในอีกประเทศ 120 วันก็จะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวอีกด้วย
ขณะเดียวกัน ความคืบหน้าการเปิดการท่องเที่ยวในพื้นที่สมุย เกาะเต่า และเกาะพงัน ขณะนี้มีความพร้อมเป็นอย่างมากในการรับนักท่องเที่ยว ส่วนการฉีดวัคซีน เชื่อว่า จะฉีดวัคซีนได้ครบตามแผนภายในสิ้นเดือนนี้ รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้ ในการให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปในพื้นที่อื่นๆ
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้ามีความพร้อมในการจัดโปรโมชั่น โดยให้ผู้ค้าปลีกมีการปรับลดราคาสินค้าและบริการให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต พร้อมเชื่อว่า ในการดำเนินการงานบริหารจัดการภูเก็ตแซนด์ บ็อกซ์ จะมีประสิทธิภาพในการดำเนินการอย่างแน่นอน
