No data was found

ผบ.ตร.สั่งสอบตำรวจ สภ.สิชล  จับทาสยาคลั่งแล้วปล่อยตัว จนก่อเหตุสังหารคุณลุงตระกูลดังดับ

กดติดตาม TOP NEWS

ผบ.ตร.สั่งสอบตำรวจ สภ.สิชล จับทาสยาคลั่งแล้วปล่อยตัว จนก่อเหตุสังหารคุณลุงตระกูลดังดับ

จากกรณีที่นายอดิศรหรือโป้ ขุนพรหม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 452/1 หมู่ 5 ซอยแพปลา หมู่ 5 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ที่มักจะอาละวาดคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายจนๆได้รับความเดือดร้อนรำคาญมายาวนาน และล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุลุกทำร้ายร่างกายนนางวิภา สินรากหอย อายุ 66 ปี ปี อยู่บ้านเลขที่ 459/5 หมู่ 5 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช จนบาดเจ็บต้องหามส่ง รพ.สิชล เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายอดิศร หรือโป้ ไปควบคุมตัวดำเนินคดีแต่กลับปล่อยตัวออกมา ก่อนจะไปดุด่านายวิโรจน์ มุสิกพงศ์ อายุ 64 ปี พ่อเฒ่าชาวประมงคนดีที่เป็นที่รักของชาวบ้านและเป็นสามีของนางวิภา ผู้บาดเจ็บ และมีบ้านอยู่ใกล้กัน จนนายวิโรจน์ สุดทนนำปืนขนาด .32 ออกมาข่มขู่ให้หวาดกลัว แต่นายอดิศร ตรงเข้าทำรายนายวิโรจน์อละแย่งปืนมาได้ ก่อนรัวยิงจนหมดโม่ 6 นัดนายวิโรจน์ เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (18 ม.ค.) ท่ามกลางความไท่พอใจของผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านที่มองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับนายอดิศร หรือโป้ ทาสยานรกไปแล้วกลับปล่อยออกมาก่อเหตุฆ่าคนตาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

(19 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่าหลังจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ประชุมผู้บังคับการตำรวจทุกจังหสัดผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ได้สอบถาม พล.ต.ต.สมชาย ซทื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ถึงเรื่องที่เกิดเหตุ ในขณะที่ทางทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาแถลงว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้สั่งการให้สอบสวนข้อเท็จจริงพนักวานสอยสวนและตำรวจที่เกี่ยวข้องของ สภ.สิชล กรณีการจับนายอดิศร หรือโป้ ทาสยานรกที่เมายาคลุ้มคลั่งอาบะวาดทำร้ายร่างกายชาวบ้าน แล้วปล่อยออกมาจนกระทั้งมาก่อเหตุฆ่าคนตาย

ในขณะที่ทางญาติ ๆ และผู้นำ ผู้บริการองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นได้นัดรวมตัวประท้วงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิชล ในช่วงเวลา 13.00 น.วันเดียวกันนี้ที่ตำรวจจะควบคุมตัวนายอดิศร หรือโป้ ผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยทาง พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ รามสวัสดิ์ ผกก.สภ.สิชล พ.ต.ท.บัณฑิต สุขะวิศิษฐ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สุรินทร์ ชูศรี รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.สุพรไชย ลิกขะไชย รอง ผกก.สส.พ.ต.ต.ภูรินทร์ เพชรที่วัง สว.สส.และกำลังตำรวจชุดสืบสวน พยายามประสานแกนนำชาวบ้านเพื่อขอให้ยุติการรวมตัวประท้วง รวมทั้งโทรศัพท์ไปหาผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดให้ช่วยประสานเคลียร์บรรดาแกนนำประท้วง แต่ไม่เป็นผลเมื่อแกนนำและชาวบ้านประกาศชัดเจนว่าไม่ว่าใครจะประสานเคลียร์ให้ยุติการประท้วงทุกคนจะไม่ยอมเด็ดขาด เพราะเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมานายอดิศรหรือโบ้ มีอาการคลุ้มคลั่งยาเสพติด ได้เดินเตะถังขยะในซอยล้มลงไปหลายถัง จนเดินเตะถังขยะมาถึงหน้าบ้านพักของนายวิโรจน์ ผู้ตาย จังหวะนั้นได้มีนางวิภา สินรากหอย อายุ 66 ปี ภรรยาของนายวิโรจน์ ฯผู้ตายกำลังนั่งอยู่หน้าบ้านพอดี นายอดิศรหรือโป้ ได้ตรงเข้าไปเตะต่อยทำร้ายร่างกายจนนางวิภาจนล้มคว่ำลมได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหูฉีกขาดเย็บ 3 เข็มและแผลแตกศีรษะถูกส่ง รพ.สิชล ซึ่งในขณะเกิดเหตุมีพลเมืองดีเข้ามาห้ามนายอดิศร หรือโป้ มือปืนทาสยานรก แต่กลับถูกนายอดิศร หรือโป้ ทำร้ายร่างกายพลเมืองดีจนหนีกระเจิง ก่อนนายอดิศรหรือโป้ จะถูกตำรวจสายตรวจ สภ.สิชลเข้าจับกุมไปดำเนินคดีที่ สภ.สิชล  “และนายสุพล พูลสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลสิชล และผู้นำท้องถิ่นพร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ รามสวัสดิ์ ผกก.สภ.สิชล ขอร้องตำรวจให้ดำเนินคดีกับนายอดิศรหรือโป้ อย่าเพิ่งปล่อยตัวนายอดิศร ทาสยานรกออกมาเพราะจะออกมาก่อกวนชาวบ้านอีก โดยระบุว่าอาจจะต้องมีการฆ่ากันตายเกิดขึ้นแน่นอน เพราะชาวบ้านยังเกิดอาการผวาภัยและโกรธแค้นนายอดิศร หรือโป้ เป็นอย่างมาก แต่ในที่สุดทางตำรวจ สภ.สิชล ก็ปล่อยตัวนายอดิศรหรือโป้ ทาสยานรกออกมา และกลับมาอยู่บ้านก่อนก่อเหตุร้ายแรงที่ขึ้นอีกดังกล่าว”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อประเมินสถานการณ์แลวพบว่าคงไม่สามารถเคลียร์ให้ยุติการรวมตัวประท้วงได้ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ รามสวัสดิ์ ผกก.สภ.สิชล ยุติการควบคุมตัวนายอดิศร หรือโป้ ฆาตกรทาสยานรกไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ เนื่องจากเกรงสถานการณ์จะลุกบามยานปลายรุนแรงได้  พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่าตนได้ชี้แจง ผบ.ตร.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปแล้วถึงกรณีที่ตำรวจจับนายอดิศร หรือโป้ ผู้ต้องที่อาละวาดก่อความวุ่นวายและทำร้ายร่างกายนางวิภา จนบาดเจ็บ เพราะในหลังการจับกุมตำรวจได้ดำเนินคดีในข้อหาก่อความวุ่นวาย ส่วนคดีทำร้ายร่างกายยังไม่ได้รับเป็นคดี โดยจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง และเมื่อมีการเปลี่ยนเวร พนักงานสอบสวนคนใหม่เห็นว่านายอดิศร หรือโป้ ผู้ต้องหา ถูกจับกุมในข้อหาก่อเหตุวุ่นวาย และอาหารต่าง ๆ เป็นปกติแล้ว จึงสั่งปรับปรับตามกฎหมายและปล่อยตัวไป ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากในคดีก่อความวุ่นวายถือว่าไม่ได้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ทางตำรวจไม่มีอำนาจในการควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้เกินจากที่กฎหมายกำหนด จึงปล่อยตัวไปจนกระทั้งสายของวันที่ 18 ม.ค. ได้ไปเกิดเหตุแย่งปืนนายวิโรจน์ และยิงนายวิโรจน์จนถึงแก่ความตายดังกล่าว “เรื่องนี้ทราบว่าชาวบ้านเขาไม่พอใจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ เพราะหลังเกิดเหตุก่อความวุ่นวายและทำร้ายร่างกายนางวิภา ภรรยานายวิโรจน์ แล้วผู้นำท้องถิ่น ท้องที่และชาวบ้านได้เข้าพบ ผกก. และพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งให้ทราบว่าอย่าเพิ่งปล่อยตัวนายอดิศร หรือโป้ ออกไปเพราะชาวบ้านอยู่ในความหวาดผวาและไม่พอใจนายอดิศรหรือโป้ ทาสยานรกอยู่ หากปล่อยออกไปอาจจะมีการฆ่ากันตายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งในข้อเท็จจริงนอกจากก่อเหตุความวุ่นวายแล้วยังมีการทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บด้วย พนักงานสอบสวนน่าจะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายดำเนินคดีกับนายอดิศร ไปพร้อม ๆ กัน แต่ในช่วงนั้นผู้เสียหายอาจจะยังอยู่ รพ.จึงยังไม่รับเป็นคดี จึงเกิดช่องว่างขึ้นช่วงการเปลี่ยนเวรพนักงานสอบสวน และทาง ผกก.เองอาจจะไม่ได้ประสานกำชับอย่างจริงจัง พนักงานสอบสวนใหม่จึงสั่งปรับและปล่อยตัวไป อย่างไรก็ตามต่อไปตนจะกำชับให้ทุกโรงพักใความละเอียดรอบคอบในกรณีแบบนี้ โดยเฉพาะผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเพราะเมายาเสพติดคลุ้มคลั่งอาละวาดเพราะบุคคลเหล่านี้นับเป็นบุคคลที่เป็นอันตรายต่อสังคมส่วนรวม”

ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะกำชับให้เร่งปราบปรามปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง และตำรวจมีโครงการที่จะนำผู้เสพยาเสพติดเข่ารับการบำบัดรักษา โดยตำรวจ ผู้ปกครองหรือแม้แต่ชาวบ้านพบเห็นคนที่สุ่มเสี่ยงที่จะเสพยาเสพติดขอแจ้งแจ้งให้ตำรวจทราบเพื่อเข้าไปตรวจปัสสาวะหากพบว่ามีสารเสพติดและสมัครใจที่จะเข้ารับการบำบัดรักษา และหากไม่ยอมเข้ารับการบำบัดรักษาเราก็จะส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งตนสั่งการให้ทุกโรงพักดำเนินการโครงการนี้มาโดยตลอดและต่อเนื่อง พล.ต.ต.สมชาย กล่าวย้ำในที่สุด

กัญญาณัฐ  เพ็ญสวัสดิ์/ จ.นครศรีธรรมราช

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ดื่มกาแฟจากตู้กด เจอแมลงไม่รู้ตัว แพ้เกือบตาย
ตัวประกันในเงื้อมมือฮามาส เจรจากันถึงไหนแล้ว
“พาณิชย์” ลุยต่อ จัดธงฟ้าราคาประหยัด ลดภาระค่าครองชีพพี่น้องประชาชน จ.นครพนม
แล้งจัด ชุมชนโบราณ 300 ปีโผล่กลางเขื่อนฟิลิปปินส์
หลุดโผ!ปรับครม.เศรษฐา 2 ปลอบใจ "เจ๊แจ๋น" หาเก้าอี้ใหม่รองก้น "กุนซือนายกฯ"
"คณะก้าวหน้า" ไม่แยแสกฎเหล็ก "กกต." เดินหน้ารณรงค์หาแนวร่วมลงสมัครส.ว.ทำเป็นฟุ้งคงกลัว "ส.ว.ส้ม" พาเหรดเข้าสภาสูง
"ปคบ." ยันฟ้องศาลทุกคดี "นอท" เฉพาะค่าปรับเกือบ 2 ล้านไม่เข็ด ซิกแซกเปลี่ยนชื่อ "ลอตเตอรี่พลัส"ขายออนไลน์เร่งสอบเอาผิดเพิ่ม
สอบสวนกลาง รวบแก๊ง “ซ้อส้ม” ทวงหนี้เงินกู้โหดรุมซ้อมผู้เสียหายปางตาย
“สุริยะ” กดปุ่มเดินเครื่องหัวเจาะ “รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้” เริ่มทะลวงอุโมงค์ทางวิ่งรถไฟฟ้า ยันรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายมีแน่
ไม่รอด "ศาลฯนครโฮจิมินห์" สั่งคุก "เจ้าสัว" ธุรกิจเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ในเวียดนาม-ร่วมมือกับลูกฉ้อโกงพันล้าน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น