โอลาฟ โชลซ์ ชนะคะแนนโหวตเสียงข้างมาก 395 คะแนนจากทั้งสิ้น 707 คะแนนในสภาผู้แทนราษฎรหรือสภาบุนเดสแท็กของเยอรมันเมื่อวานนี้ ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนคนต่อไปของเยอรมนี จากนั้นเขาก็เดินทางเข้าพบประธานาธิบดีแฟรงค์-วอลเตอร์ ชไตน์ไมเออร์ ที่ทำเนียบประธานาธิบดี ก่อนเดินทางกลับมายังอาคารรัฐสภาเพื่อทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ เป็นผู้นำรัฐบาลผสมชุดใหม่ของเยอรมนีที่ประกอบด้วย 3 พรรค คือพรรคโซเชียล เดโมแครต หรือ SDP ที่เขาเป็นผู้นำพรรคในปัจจุบัน, พรรคกรีนส์ และพรรคฟรี เดโมแครต กลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 9 ของเยอรมนี
การรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของ โอลาฟ โชลซ์ ยังถือเป็นการรับไม้ต่อจากนางอังเกลา เมอร์เคิล ที่นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีมานานถึง 16 ปี และ 16 วัน เรียกได้ว่าเป็นการสิ้นสุดงานทางการเมืองตลอด 31 ปีของเมอร์เคิลด้วย
โอลาฟ โชลซ์ วัย 63 ปี นำพรรค SDP คว้าชัยในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และถูกมองว่าน่าจะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเยอรมนี จากการที่มีบทบาททางการเมืองในรัฐบาลของเมอร์เคิลมายาวนานในฐานะรองนายกรัฐมนตรี โชลซ์เจรจาตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคกรีนส์ และพรรคฟรี เดโมแครต อยู่นานเกือบ 3 เดือน ก่อนลงนามในข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลผสมไปเมื่อวันอังคาร
ทั้งนี้ รัฐบาลผสมชุดใหม่ของเยอรมนีที่มีโชลซ์เป็นผู้นำ ประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะรับมือกับปัญหาโลกร้อนอย่างเข้มข้น ด้วยการประกาศแผนยกเลิกการใช้พลังงานจากถ่านหินก่อนเป้าท่ีวางไว้ และมุ่งเน้นการใช้งานพลังงานสะอาด
แต่ภารกิจเร่งด่วนตอนนี้ น่าจะเป็นการรับมือการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศ หลังจากพบผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นต่อเนื่องจนน่าตกใจ โดยโชลซ์ได้เลือก คาร์ล เลาเตอร์บัค นักระบาดวิทยา ที่มีดีกรีจบจากโรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมานั่งเก้าอี้สำคัญนี้ เลาเตอร์มีจุดยืนสนับสนุนมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นมาโดยตลอด คาดว่าหลังรัฐบาลชุดใหม่ของโชลซ์เริ่มทำงานในวันนี้ เยอรมนีจะมีการบังคับใช้มาตรการที่เข้มข้นมากขึ้นสำหรับกลุ่มที่ยังไม่ฉีดวัคซีน