“รัฐบาล” ฝ่าแรงเสียดทานทำประชามติ “แก้รธน.” แจกเงินดิจิทัล สกัด”กองทัพ”ทำรัฐประหาร

"รัฐบาล" ฝ่าแรงเสียดสีต้านทำประชามติแก้รธน.รอวัดฝีมือดรีมทีมเศรษฐกิจ "3ขุนคลัง" สานฝัน "แจกเงินดิจิทัล" สำเร็จ กังขา "สุทิน" ออกกม.สกัดรัฐประหารหวังค้ำเก้าอี้ตัวเอง หรือ ปิดทางกองทัพจุ้นการเมือง?

TOP News รายงานข่าว โล่งอกไปทีเมื่อซูเปอร์นายกฯ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นำสูงสุดแห่งพรรคเพื่อไทย ได้ช่วยปิดเกมปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไปเป็นที่เรียบร้อยดับฝันบรรดานักวิ่งสายนายใหญ่หรือนายหญิงที่ใหญ่คับพรรคได้หยุดแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันเสียที รัฐบาลได้เดินหน้าเต็มสูบขับเคลื่อนผลงานให้เข้าตาและโดนใจพี่น้องประชาชน ส่วนนายใหญ่เพื่อไทยหลังจากนี้ก็ไปนั่งประจำการอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า ดูอยู่ห่างๆ ใครทำงานไม่เข้าตาค่อยปรับออกจากรัฐบาลครม.เศรษฐา 3

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“ภูมิธรรม”เจอแรงเสียดสีต้านทำประชามติแก้รธน.

แต่กับดักที่รอครม.เศรษฐา 2 ต้องฝ่าไปให้ได้ น่าจะมีอยู่ 3 เรื่องใหญ่ ๆ ที่กลายเป็นกระแสข่าวเชิงลบขย่มรัฐบาลไม่เว้นวัน เข้าทางขาประจำออกมาวิพากษ์วิจารณ์อยู่เนือง ๆ เริ่มที่เรื่องร้อนแรก คือ ภายหลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้มีการจัดทำประชามติ 3 ครั้งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 60 เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันขรม! โดยเฉพาะประเด็นคำถามของการทำประชามติครั้งแรกให้ถามประชาชนว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่แก้ไขหมวด 1 หมวดทั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์” ถูกทวงติงจากฝ่ายไม่เห็นด้วยอย่างหนักว่า มัดมือชก หรือ ใช้คำถามกำกวม หากประชาชนไม่ตอบว่าเห็นด้วยกับสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ นั้นหมายความว่า ไม่ต้องแก้รัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ เข้าทางบรรดาขาประจำแท็กทีมกับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ออกคัดค้านว่า เจตนาของรัฐบาลในการทำประชามติครั้งนี้ เป็นการขุดหลุมพราง หรือวางยา เพื่อไม่ให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จใช่หรือไม่ กลายเป็นโจทย์ใหญ่ของคีย์แมนแห่งพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯควบกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2560 ต้องออกมาแก้เกมโดยไว แต่ดูเหมือนขณะนี้ยังง่วนอยู่กับการจัดโผ ครม.เศรษฐา 2 จึงปล่อยให้อีกฝ่ายรุกหนัก

รอวัดฝีมือดรีมทีมเศรษฐกิจ “3ขุนคลัง” เข็น “แจกเงินดิจิทัล” สำเร็จ

อีกกับดักที่รัฐบาลต้องฝ่าข้ามแรงเสียดทานไปให้ได้ นั้นคือ นโยบายเรือธง “แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต1หมื่นบาท” ยิ่งช้ามากเข้าเท่าไร ยิ่งเข้าทางขาประจำจ้องถล่มเล่นงาน นับตั้งแต่ นายกฯ คิกออฟลุยไฟแจกเงินดิจิทัล เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา โดนล็อกเป้าจี้ถามถึง “ซุเปอร์แอป” ที่จะนำมาใช้ใส่เงินดิจิทัลเข้ากระเป๋าประชาชน อัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ที่มีการประกาศว่าจะเริ่มให้ร้านค้าและประชาชนได้ลงทะเบียนตั้งแต่ไตรมาส 3 หรือ ช่วงเดือนกันยายนนี้ ยิ่งเวลางวดเข้ามาทุกขณะ รัฐบาลโดยเฉพาะขุนคลังคนใหม่ “พิชัย ชุณหวชิร” พร้อมดรีมทีมเศรษฐกิจ นั้นคือ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” และ “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” แท็กทีมกันทำงาน เมื่อไรโผครม.คลอดออกมาต้องมาไขข้อกังขาให้แจ่มแจ้ง เรื่องจะนำเงินมาจากไหนเพื่อมาตั้งซุปเปอร์แอปดังกล่าว จะใช้งบประมาณนับร้อยหรือพันล้านบาทยังไม่มีรายละเอียดที่แน่ชัด ว่าจะเริ่มทำได้เมื่อไร และหากเสร็จสิ้นโครงการไปแล้วจะนำซุปเปอร์แอปดังกล่าว ไปทำอะไรต่อ จึงไม่แปลกที่หลายฝ่ายออกมาแนะนำว่า ถ้าอยากช่วยเหลือคนจน ๆ ทำไมไม่โอนเงินสดผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ แอปเป๋ามีตัง ไปเลยเสียตอนนี้

รวมถึงประเด็นการหาแหล่งเงิน 5 แสนล้านบาทมาซัพพอร์ตนโยบายเรือธงของรัฐบาล โดยเฉพาะการไปล้วงเงินจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือ ธกส.ได้หรือไม่ ตอนนี้อยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กำลังหัวหมุนอยู่กับการหาทางตีความสนองตอบนโยบายรัฐบาล เพราะอย่าลืมว่าแจกเงินดิจิทัลเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยเพียงลำพัง อะไรที่พลาดท่าขึ้นมา พรรคเพื่อไทย ย่อมได้รับเสียงด่าและเสียงชมเต็ม ๆ นี่คือโจทย์หินของดรีมทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย

ออกกม.สกัดรัฐประหารหวังค้ำเก้าอี้ตัวเอง หรือ ขวางกองทัพจุ้นการเมือง?

อีกปมร้อนที่อาจกลายเป็นกับดักทำรัฐบาลติดหล่ม นั้นคือ กรณี “สุทิน คลังแสง” เล่นใหญ่เกินเบอร์ไปหรือไม่ ก่อนทิ้งทวนปรับครม.เศรษฐา 1 ในเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ผลักดันออกกฎหมายต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหาร กฎหมายฉบับเต็มชื่อ พระราชบัญญัติ จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม จึงทำให้ขาประจำทั้งที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม หรือ อยู่ฝั่งเดียวกับรัฐบาลออกมาวิจารณ์กันเซ็งแซ่ ว่าแท้จริง “สุทิน” วางแผนสกัดรัฐประหารเพื่อค้ำเก้าอี้ตัวเองให้ได้ไปต่อ หรือ จริงใจจะสกัดทหารไม่ให้เข้ามายุ่งการเมืองกันแน่

ขาประจำรัฐบาลบางคนออกมาย้อนเกล็ดรัฐประหาร ปี 2549 สมัย “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน โค่นอำนาจนายใหญ่เพื่อไทยกลายเป็นคนแดนไกลถึง 18 ปี ช่วงนั้นเกิดม็อบประท้วงรัฐบาลเกลื่อนเมืองเศรษฐกิจและการเมืองเดินต่อไม่ได้ เช่นเดียวกับเหตุการณ์รัฐประหารปี 2557 สมัย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล้มกระดานอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ขนาดกูรูฝ่ายความมั่นคง “พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์”ยังออกมาเปรียบเทียบว่า รู้ไหมที่สหรัฐอเมริกา ประเทศต้นฉบับประชาธิปไตยที่พรรคก้าวไกลถวิลหา ทำไมทหารไม่กล้ารัฐประหาร เพราะฝ่ายบริหาร “ประธานาธิบดี” ไม่เข้ามาล้วงลูกโผทหาร และ รู้จักใช้ศักยภาพของกองทัพเพื่อต่อรองทางเศรษฐกิจการเมืองและความมั่งคง ผิดกับประเทศไทยนักการเมืองไทยมุ่งสร้างเงื่อนไขให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร และ สร้างกับดักให้กับตัวเองเดินไปติดหล่ม จริงหรือไม่ลองพิจารณาดูก็แล้วกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สิบล้อขับพุ่งชนรถพ่วงจอดเสียซ่อมข้างทาง พบยาบ้า ยาไอซ์ และ เครื่องชั่ง
ทหารพราน ทพ.1304 สังกัด กองกำลังบูรพา รวบ 6 คนไทย ลอบข้ามแดนกลับไปทำงานคาสิโนปอยเปต
“นายกฯ” ยันเหตุไมค์โขกศีรษะ นักข่าวไม่ได้ตั้งใจ ขอบคุณทุกความห่วงใย
ชาวบ้านรวมใจส่งใจไปชายแดน มอบสิ่งของเป็นขวัญกำลังให้ทหารหาญ
"มนพร" เดินหน้าผลักดัน "ท่าเรือระนอง" รับมือขนส่งสินค้าพุ่ง 251 % สั่งการ กทท.เร่งดำเนินการยกระดับเทียบชั้นสากล
รมว.กลาโหมกัมพูชาแขวะกองทัพไทยอวดศักยภาพอาวุธ
จีนดับ 3 รายน้ำท่วม 'อาคารจอดรถใต้ดิน'หูหนาน
“อนุทิน” ยันข่าวปลอม “เนวิน” คุยลุง หนุน “พีระพันธุ์” เป็นนายกฯ สวน “ภูมิธรรม” ไม่เคยคิดฉวยโอกาส ลั่นชัดไม่ตั้งรัฐบาลสู้
จันทบุรี กัมพูชาส่งเอกสารปิดผนึกถึงผู้ว่าจันทบุรี
"พงศ์พรหม" ชำแหละ "นายกอิ๊งค์" โดนแบล็คเมล์ รอบ 2 โชว์บุญคุณ เหนือตระกูลชิน ชี้ไม่จบง่าย "ฮุน เซน" ขย่มต่อนักการเมือง ทุนไทยเทา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น