No data was found

ทนายความ ข้องใจคำวินิจฉัยเกินอำนาจศาลรธน.หรือไม่

กดติดตาม TOP NEWS

ศาลรัฐธรรมนูญ 10 พ.ย.- ทนาย ผิดหวังคำวินิจฉัยศาล รธน.หลังชี้ขาด 3 แกนนำม็อบ ล้มล้างการปกครอง โดยไม่มีการไต่สวน เรียกร้องนักกฏหมาย นักวิชาการและสังคมร่วมกันตรวจสอบคำวินิจฉัยนี้ เกินอำนาจศาล รธน.หรือไม่

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวภายหลัง ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การปราศรัยของแกนนำ หรือผู้ถูกร้องทั้ง 3 เข้าข่ายการล้มล้างการปกครองในระบบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีคำสั่งห้ามให้ผู้ถูกร้องกระทำการในลักษณะแบบนี้อีก รวมถึงบุคคลอื่นบุคคลใดด้วยว่า หลังจากนี้จะนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง ว่ามีส่วนใดที่คำวินิจฉัย เกินอำนาจศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมถึงไปกระทบต่อสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ กำหนด ตามมาตรา 49 วรรค 2 หรือไม่ เนื่องจากมีคำสั่งห้ามบุคคลอื่นหรือผู้หนึ่งผู้ใดกระทำการในลักษณะนี้อีกในอนาคต ซึ่งเป็นการจำกัดสิทธิ์สิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ เป็นการวินิจฉัยเกินอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าหลักฐานของฝั่งผู้ร้องครบถ้วนตามกระบวนการหรือไม่ เพราะแม้แต่การขอไต่สวนพยานทั้ง 8 ปากของฝั่งผู้ถูกร้อง ก็ถูกคัดค้านจากศาลรัฐธรรมนูญ อ้างไต่สวนหลักฐานจากการถอดเทปคำปราศรัยและกระดาษไม่กี่แผ่น ซึ่งไม่แน่ใจว่ามีน้ำหนักเพียงพอต่อการชี้ขาดวันนี้หรือไม่

ต่อข้อถามว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาในลักษณะนี้ อาจเป็นแนวทางเพิ่มน้ำหนักให้กับคดีอาญาของกลุ่มแกนนำที่เคลื่อนไหวในลักษณะนี้หรือไม่ นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าคำวินิจฉัยของศาลจะถูกนำมาเป็น บรรทัดฐานอ้างอิงในคดีอาญาอื่น ๆ เช่นคดีของนายอานนท์ นำภา ซึ่งจะเป็นภาระที่หนักให้ทีมทนายความมากขึ้น เพราะคำวินิจฉัยนี้จะผูกพันไปทุกองค์ ส่วนจะเชื่อมโยงไปสู่ข้อเสนอเรียกร้องยกเลิกมาตรา 112 หรือไม่ ยังไม่สามารถคาดเดาได้ ส่วนแกนนำจะเคลื่อนไหวต่ออีกหรือไม่ หลังจากนี้ถือเป็นสิทธิ ของพวกเขาที่จะกระทำได้

นายกฤษฎางค์ ยังระบุอีกว่า รู้สึกผิดหวังกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแต่ไม่ได้แปลว่าฝั่งผู้ถูกร้องแพ้แต่อย่างใด พร้อมเรียกร้องให้สังคมรวมถึงนานาชาติตรวจสอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าถูกต้องหรือไม่

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ดื่มกาแฟจากตู้กด เจอแมลงไม่รู้ตัว แพ้เกือบตาย
ตัวประกันในเงื้อมมือฮามาส เจรจากันถึงไหนแล้ว
“พาณิชย์” ลุยต่อ จัดธงฟ้าราคาประหยัด ลดภาระค่าครองชีพพี่น้องประชาชน จ.นครพนม
แล้งจัด ชุมชนโบราณ 300 ปีโผล่กลางเขื่อนฟิลิปปินส์
หลุดโผ!ปรับครม.เศรษฐา 2 ปลอบใจ "เจ๊แจ๋น" หาเก้าอี้ใหม่รองก้น "กุนซือนายกฯ"
"คณะก้าวหน้า" ไม่แยแสกฎเหล็ก "กกต." เดินหน้ารณรงค์หาแนวร่วมลงสมัครส.ว.ทำเป็นฟุ้งคงกลัว "ส.ว.ส้ม" พาเหรดเข้าสภาสูง
"ปคบ." ยันฟ้องศาลทุกคดี "นอท" เฉพาะค่าปรับเกือบ 2 ล้านไม่เข็ด ซิกแซกเปลี่ยนชื่อ "ลอตเตอรี่พลัส"ขายออนไลน์เร่งสอบเอาผิดเพิ่ม
สอบสวนกลาง รวบแก๊ง “ซ้อส้ม” ทวงหนี้เงินกู้โหดรุมซ้อมผู้เสียหายปางตาย
“สุริยะ” กดปุ่มเดินเครื่องหัวเจาะ “รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้” เริ่มทะลวงอุโมงค์ทางวิ่งรถไฟฟ้า ยันรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายมีแน่
ไม่รอด "ศาลฯนครโฮจิมินห์" สั่งคุก "เจ้าสัว" ธุรกิจเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ในเวียดนาม-ร่วมมือกับลูกฉ้อโกงพันล้าน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น