นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว “Top News” ถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มราษฎร ทั้งนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนายอานนท์ นำภา กล่าวปราศรัยโจมตีสถาบันอย่างต่อเนื่อง ในกิจกรรมม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ ที่บริเวณหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมานั้นเข้าข่ายผิดเงื่อนไขการประกันตัวหรือไม่ว่า ต้องให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการ เพราะถือว่าทั้งสองคนทำผิดเงื่อนไขการประกันตัว 2 ใน 3 ข้อคือ ห้ามใส่ร้ายโจมตีสถาบัน และห้ามร่วมชุมนุมก่อให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งการกระทำที่หอศิลปวัฒนธรรมฯ นายอานนท์กล่าวถึงสถาบันในทางเสียหายอย่างชัดเจน ถือว่าเข้าเงื่อนไขให้ถอนการประกันตัวได้ เรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นเจ้าของสำนวนคดีต้องเห็น เพื่อส่งเรื่องให้อัยการเพื่อขอให้ศาลพิจารณาถอนการประกันตัว
นายสมชาย กล่าวว่า กรณีนี้หากประชาชนเห็นว่าตนเองเป็นผู้เสียหายก็สามารถไปร้องต่ออัยการได้เช่นกัน ซึ่งทราบว่าที่ผ่านมามีประชาชนไปยื่นเรื่องแล้ว และการชุมนุมหลายครั้งที่ผ่านมามีการใช้ประทัดยักษ์ มีการเผาทำลายทรัพย์สิน รวมถึงอาคารบ้านเรือนประชาชนใกล้เคียง และล่าสุดมีการสาดสีใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณด้านหน้าหน้า ตชด.ภ.1 ตนเห็นใจตำรวจมาก อยากให้สังคมมองเห็นว่าเป็นการชุมนุมที่สงบตามที่กล่าวอ้างไว้หรือไม่ เพราะนี่ไม่ใช่การชุมนุมสงบ แม้จะไม่มีการใช้อาวุธชัดเจน แต่มีการใช้ถ้อยคำปราศรัยหยาบคายรุนแรง สังคมควรออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย และคนที่ควรปรับการปฏิบัติคือตำรวจที่ถูกกำชับให้ทำหน้าที่ด้วยความอดทนอดกลั้น ไม่ให้ใช้อาวุธและความรุนแรง ทั้งที่ถูกมวลชนยั่วยุ ซึ่งเท่าที่เห็นเจ้าหน้าที่ทำตามหลักสากล ไม่ว่าประเทศใดในโลกก็มีกติกาใช้กำลังจากเบาไปหาหนัก
“เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ควรถูกสั่งให้งอมืองอเท้า เพราะจากเหตุการณ์สาดสีใส่ที่ด้านหน้าตชด.ภ.1ถูกหยามเกียรติ ต้องได้รับการแก้ไข ขั้นตอนจากเบาไปหาหนักประชาชนรับได้ หากตำรวจทำตามกฎหมาย ไม่ย่อหย่อน และไม่เลือกปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ก็สามารถปกป้องตนเองและประชาชนได้ ดังนั้นขอให้ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้ตามเหตุผล หากมีการใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนมาสามารถตอบโต้ได้ ไม่เช่นนั้นตำรวจคนทำงานจะหมดกำลังใจ และท้อแท้ ซึ่งผู้บังคับบัญชาต้องตรงไปตรงมาสั่งให้ปฏิบัติการได้ ถ้ามีกลุ่มบางกลุ่มใช้ความรุนแรงทำร้ายเจ้าหน้าที่ จะปล่อยไม่ได้” นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า สำหรับการนัดชุมนุมบริเวณพระบรมหาราชวังในวันที่ 7 ส.ค.นั้น ตนไม่เห็นด้วย และขอประนาม เพราะสถาบันไม่เกี่ยวกับการเมือง ตามที่มีบางคนพยายามเรียกร้อง การขับไล่รัฐบาลสามารถทำได้ แต่การจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับสถาบันนั้นตนไม่เห็นด้วย ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมต้องการปลุกระดมให้เกิดการปฏิวัติแบบประเทศฝรั่งเศส โดยที่ผู้ไปร่วมชุมนุมอาจไม่ทราบทั้งหมดว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังมาเป้าหมายเช่นนี้ และเจ้าหน้าที่ต้องเข้มแข็ง เพราะพระบรมมหาราชวังไม่ใช่สถานที่ที่จะไปทำลายได้ ดังนั้นตนก็เน้นย้ำเรื่องการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานความมั่นคงขอให้ดำเนินการอย่างเต็มกำลังความสามารถ อย่าให้คนกลุ่มหนึ่งที่มีจำนวนไม่มากใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ และสถานที่สำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ของสถาบัน
