จากข้อตกลงด้านความมั่นคงบนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ที่สหรัฐ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ทำร่วมกัน และสหรัฐจะเข้าช่วยออสเตรเลียในการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์นั้น ทางรัฐบาลจีนระบุว่าพันธมิตรเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพในภูมิภาค พร้อมตั้งคำถามถึงความมุ่งมั่นของออสเตรเลียในการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
ด้านนายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่า จีนก็มีโครงการสร้างเรือดำน้ำนิวเคลียร์ พวกเขามีสิทธิ์ทุกอย่างในการตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ของชาติสำหรับการเตรียมการป้องกันประเทศ และแน่นอน ออสเตรเลียและประเทศอื่นๆ ก็มีสิทธิ์เช่นกัน
มอร์ริสันกล่าวเสริมว่า รัฐบาลออสเตรเลียกำลังตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งมีการแข่งขันที่มากขึ้น ออสเตรเลียตระหนักดีถึงความสามารถของเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของจีน ซึ่งออสเตรเลียต้องการทำให้แน่ใจว่าน่านน้ำสากลเป็นน่านน้ำสากลเสมอ ท้องฟ้าระหว่างประเทศก็ยังคือท้องฟ้าสากล และหลักนิติธรรมก็จะเป็นการบังคับใช้อย่างเท่าเทียมกันทั้งหมด รวมไปถึงการค้าด้วย ซึ่งนั่นคือสันติภาพและความมั่นคงที่ออสเตรเลียต้องการรักษาไว้
ทั้งนี้ จีนอ้างสิทธิ์เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ที่อุดมไปด้วยทรัพยากร จนทำให้เกิดข้อพิพาทกับประเทศต่างๆในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และจีนยังถูกกล่าวหาว่าติดตั้งยุทโธปกรณ์ทางทหารหลายรุปแบบ นอกจากนี้ จีนยังเพิกเฉยต่อคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศในปี 2559 ที่ประกาศว่าการอ้างสิทธิ์ทางประวัติศาสตร์เหนือน่านน้ำส่วนใหญ่ที่จีนอ้างมานั้น ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด
นายมอร์ริสันกล่าวย้ำว่า มีการหารือร่วมกัน 3 ประเทศมานานกว่า 18 เดือน และสัญญานี้จะคงอยู่ตลอดไป เพื่อความมั่นคงและปลอดภัยของออสเตรเลียในอนาคต