เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 24 สิงหาคม 2564 พ.ต.ท.ธนภัทร เกิดสวัสดิ์ สว.สอบสวน สถานีย่อยเขาเขียว อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุรถบรรทุก 18 ล้อ พุ่งชนเฉี่ยวท้ายรถบรรทุก 18 ล้อ ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย และมีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 เหตุเกิดบนถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 ตอนที่ 3 ฝั่งขาเข้าแหลมฉบัง ช่วงบริเวณหน้าไปรษณีย์ไทย สาขาอ่าวอุดม ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีป ศรีราชา และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครแหลมฉบัง นำรถดับเพลิงเข้าช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุอยู่ช่องทางเลนขวาสุดพบรถบรรทุก 18 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 72-0141 ชลบุรี หมายเลขทะเบียนส่วนหาง 73-0947 ชลบุรี อยู่ในสภาพส่วนหัวรถบรรทุกพังเสียหาย จนขาดออกจากกัน ที่บริเวณใต้ท้องรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย เป็นหญิงทราบชื่อคือนางมลฤทัย น้ำจันทร์ อายุ 27 ปี (ผู้ขับขี่) และ ด.ญ.ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 10 ขวบ (นั่งโดยสารมา) เจ้าหน้าที่จึงได้รีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ในขณะที่บริเวณซากรถ ช่วงหางพ่วง พบศพผู้เสียชีวิต เป็นหญิง ไม่ทราบชื่อและนามสกุล อายุประมาณ 15 ปี (นั่งโดยสารมา) เจ้าหน้าที่จึงได้นำผ้าขาวมาปิดคุมเอาไว้ ใกล้กันพบรถบรรทุก 18 ล้อ ยี่ห้อ ซีพี โฟตอน สีขาว หมายเลขทะเบียน 71-3294 ปทุนธานี หมายทะเบียนส่วนหาง 73-7936 ชลบุรี จอดอยู่ที่บริเวณท้ายรถมีร่องรอยเฉี่ยวชน โดยไม่พบผู้ขับขี่ ออกมาแสดงตัวแต่อย่างใด คาดอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบบัตรประจำตัวประชาชนบนรถบรรทุกคันที่หลบหนี ทราบชื่อคือนายอนุชา วันธกุล อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 ม.7 ต.แวง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ในขณะเดียวกันที่บริเวณช่องทางจุดเกิดเหตุ มีรอยเบรกล้อรถเป็นทางยาว ของทั้ง 2 คัน เบรกตามกันมา ก่อนที่จะพบรอยล้อรถเบรกอีกคันจะหักหลบแต่ไม่พ้น จนเฉี่ยวชนดังกล่าว
สอบถามนางปาริดา อินทรักษา อายุ 41 ปี ผู้ขับขี่รถบรรทุก ที่ขับขี่ผ่านมาในยังเกิดเหตุ กล่าวว่า ดูจากร่องรอยจุดเกิดเหตุแล้ว ตนเองคิดว่าน่าจะขับขี่ตามกันมา แล้วปรากฎว่า รถบรรทุกคันหน้า อาจจะเบรกกระทันหัน ส่งผลให้รถบรรทุกอีกคัน เบรกไม่ทัน จนต้องหักหลบ แต่ก็ไม่พ้น พุ่งเฉี่ยวชนจนเกิดเหตุดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวน เพื่อติดตามตัวคู่กรณีมาสอบปากคำ ในขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บต้องรอให้อาการทุเลาลงก่อน จะสอบปากคำอีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ชำนาญ ใจเอื้อ ผู้สื่อข่าว TOPNEWS จ.ชลบุรี