วันนี้(20 พ.ค.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงข่าวยอดผลิตรถยนต์เดือนเมษายน 2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Zoom) โดยนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. ภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในส่วนของรถยนต์ ปี 64 ที่ตั้งเป้าการผลิตเพื่อส่งออกไว้ที่ 7.5 แสนคัน มองว่าอาจจะเกินเป้าหมายที่วางไว้ได้ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ยืดเยื้อ รวมถึงปัญหาการขาดแคลนชิปที่ทำให้โรงงานผลิตรถยนต์ทั้งในประเทศและทั่วโลกหยุดผลิตชั่วคราวเป็นระยะๆ
ทั้งนี้ ส.อ.ท. ได้ตั้งเป้าการผลิตรถยนต์ปี 64 ที่ 1,500,000 คัน แบ่งเป็น การผลิตเพื่อส่งออก 7.5 แสนคัน และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 7.5 แสนคัน ซึ่งเป็นเป้าต่ำสุดที่คำนึงถึงการระบาดของโควิด-19 ระลอกสองเมื่อต้นปีและระลอกใหม่ตลอดปีนี้ รวมถึงการขาดแคลนชิปที่ทำให้โรงงานผลิตรถยนต์ทั่วโลก รวมทั้งไทย ต้องหยุดผลิตชั่วคราวเป็นระยะ
โดยจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – เมษายน 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 570,188 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – เมษายน 2563 ร้อยละ 19.19 แบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออก 330,379 คัน และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศได้ 239,809 คัน
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2564 รถยนต์มียอดขาย 252,269 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 9.6 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 569,293 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 11.71
สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ เดือนเมษายน 2564 มีจำนวน 58,132 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 93.1 จากฐานต่ำปีที่แล้วที่มีการล็อกดาวน์และขอให้ประชาชนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ แต่ยอดขายยังต่ำกว่าเดือนเมษายน 2562 ร้อยละ 23.45 และลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 21.76 ลูกค้าที่จอง ขอเลื่อนการรับรถยนต์ไปก่อน เพราะไม่มั่นใจในเรื่องรายได้ในอนาคตจากการระบาดของโควิด 19 รวมทั้งบริษัทปล่อยสินเชื่อก็เข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อด้วย
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 133,850 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2563 ร้อยละ 69.70 และลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 21.11
ในส่วนของการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือนเมษายน 2564 ส่งออกได้ 52,880 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2563 ร้อยละ 160.16 เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำปีที่แล้วที่มีการล็อกดาวน์ แต่ยังส่งออกน้อยกว่าเดือนเมษายน 2562 และเดือนมีนาคมปีนี้ที่ ร้อยละ 21.21 และร้อยละ 49.40 ตามลำดับ
เดือนมกราคม – เมษายน 2564 มีการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 310,988 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 14.92 มีมูลค่าการส่งออก 173,012.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.50 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ส่วนรถจักรยานยนต์ เดือนเมษายน 2564 ส่งออก 59,511 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มจากเดือนเมษายน 2563 ร้อยละ 77.83 โดยมีมูลค่า 4,565.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2563 ร้อยละ 70.11 โดย 4 เดือนแรกปีนี้ มียอดส่งออกรถจักรยานยนต์แล้ว 328,983 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 14.08 มีมูลค่า 29,252.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 23.03
สำหรับ 4 เดือนแรกปีนี้ เมื่อรวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 291,825.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 23.41
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า การระบาดของโควิด-19 น่าจะรุนแรงกว่า ปัญหาการขาดแคลนชิป เพราะควบคุมไม่ได้ และอาจจะมีการล็อกดาวน์ ซึ่งตอนนี้ก็มีการล็อกดาวน์อยู่ในบางพื้นที่ ขณะที่การขาดแคลนชิป อาจจะหยุดผลิตได้ชั่วคราว อาจจะล่าช้าไป แต่ก็กลับมาผลิตได้ อยู่ที่การบริหารจัดการของผู้ผลิตรถยนต์ และผู้ผลิตชิป
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นห่วงในปัญหาการขาดแคลนชิป ค่อนข้างจะหนักขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้มองว่าซึ่งอาจจะยืดเยื้อไป 2 ปี จะทำให้ขาดแคลนยอดผลิตรถยนต์ทั่วโลกหายไป 1 ล้านคัน เป็นเงินพันล้านเหรียญ
ส่วนในเรื่องของวัคซีน นายสุรพงษ์ กล่าวว่า อยากเร่งให้มีการฉีดวัคซีน ให้เร็ว และได้มากที่สุด เพื่อพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ตกต่ำไปมากกว่านี้