นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวคัดค้านการฉีดวัคซีนแบบวอล์คอิน ระบุว่า “ก่อนหน้านี้รัฐบาลกลัวว่าคนจะมาฉีดวัคซีนน้อยจากยอดลงคนทะเบียนผ่านหมอพร้อม จึงแถลงจะเปิดการให้ฉีดแบบวอล์คอินได้ แต่ขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว การจองผ่านหมอพร้อมเกิน 6 ล้านคนแล้ว และน่าจะมีคนจองมากกว่า 10 ล้านคนแน่นอน ซึ่งอีกวัคซีน 6 ล้านโดสที่จะมาในเดือน มิ.ย.นี้ จะมีไม่พอฉีด และเดือนก.ค.ก็จะมีวัคซีนเข้ามาเพิ่มเพียง 10 ล้านโดส”
“ในสถานการณ์นี้ รัฐบาลควรจะยกเลิกการฉีดวัคซีนแบบวอล์คอิน แต่ควรเปลี่ยนเป็นกำหนดกลุ่มเป้าหมายใหม่เพิ่มที่จะให้จองคิวเข้าฉีดวัคซีนได้ เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องเร่งฉีด เพื่อให้เราฟื้นเศรษฐกิจและเปิดประเทศได้เร็วขึ้น เช่น กลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ,ประชาชนในพื้นที่ท่องเที่ยว ,กลุ่มสถานประกอบการ และกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการระบาด เช่น เรือนจำ โรงงาน แคมป์ก่อสร้าง สำนักงานต่าง ๆ ชุมชนแออัดโดยต้องฉีดให้ทั้งคนไทยและต่างด้าวที่ถูกกฎหมายด้วย” นพ.ระวี กล่าว
นพ.ระวี กล่าวว่า การเร่งให้ฉีด 3 กลุ่มนี้ก่อน จะมีความจำเป็นและมีประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ มากกว่าการกำหนดจะให้ฉีดแบบวอล์คอินที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจน ซึ่งไม่เหมาะกับสภาพที่เรายังมีวัคซีนเข้ามาน้อย นอกจากนี้ระบบวอล์คอินจะควบคุมยาก เพราะไม่มีการนัดหมายก่อน ถ้าประชาชนมาแล้วไม่ได้ฉีด จะเกิดปัญหาได้ วิธีนี้น่าจะเป็นทางเลือกสุดท้าย เมื่อเรามีวัคซีนมากกว่าคนที่ลงทะเบียนแล้วเท่านั้น ซึ่งหลังเดือน ก.ค.ก็อาจจะทำได้ และขั้นตอนการฉีดควรเป็นการประกาศให้คนไทยทุกคนทั่วประเทศ ที่ต้องการจะฉีดวัคซีนให้เข้าลงทะเบียนจองคิวหมอพร้อม หรือไปจองที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือนัดหมายผ่าน อสม.ก็ได้ จะได้นัดการฉีดล่วงหน้าได้ถูกต้อง ไม่เกิดความสับสน ไม่เกิดการเดินทางมาฟรีแต่ไม่ได้ฉีด #หยุดฉีดแบบวอล์คอิน #วัคซีนยังมาน้อย ฉีดโดยมีเป้าหมายก่อน