No data was found

ยันทุกโรงพยาบาลมี ยาฟาวิพิราเวียร์ เพียงพอ

กดติดตาม TOP NEWS

กรุงเทพฯ 3 พ.ค.- โฆษกรัฐบาลเผย ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) กระจายและสำรองให้กับทุกโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างเพียงพอ รัฐบาลเร่งจดสิทธิบัตรเพื่อผลิตในไทย ใช้ลดความรุนแรงและการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระลอกนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการบริหารจัดการยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการกระจายไปตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศอย่างเพียงพอและทั่วถึงโดยกระทรวงสาธารณสุข มีระบบบริหารจัดการจากส่วนกลาง ซึ่งเป็นหน่วยสำรองยาระดับประเทศ และกระจายยาไปโรงพยาบาลในทุกจังหวัดที่รับผู้ป่วย พร้อมทั้งสำรองในโรงพยาบาลแม่ข่ายทั้งในกรุงเทพมหานครและภูมิภาคทุกเขตสุขภาพมากกว่า 20 โรงพยาบาล เช่น ในกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัย สังกัดกรุงเทพมหานครเป็นแม่ข่าย กระจายยาให้ทั้งภาครัฐและเอกชนทุกสังกัด ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 26 -30 เมษายน 2564 มีการกระจายยาไปยังทุกจังหวัดที่มีผู้ป่วยทุกเขตสุขภาพแล้ว 765,600 เม็ด อาทิ โรงพยาบาลราชวิถี 190,500 เม็ด โรงพยาบาลนครพิงค์ 48,000 เม็ด โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า 78,200 เม็ด โรงพยาบาลชลบุรี 70,000 เม็ด โรงพยาบาลหาดใหญ่ 18,500 เม็ด โรงเรียนแพทย์ แห่งละ 4,000 – 6,000 เม็ด และโรงพยาบาลภาคเอกชนกว่าแสนเม็ด รวมทั้งมีการวางแผนจัดส่งยาฉุกเฉิน โดยองค์การเภสัชกรรม ผ่านทางสายการบินพาณิชย์ และรถโดยสารในจังหวัดที่ไม่มีสนามบินไว้ด้วย

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  ยาฟาวิพิราเวียร์เป็นยาที่ให้ในผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการ ตามแนวทางการรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จึงพร้อมกระจายยาและสำรองยาให้กับทุกโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนที่รับผู้ป่วยมีอาการอย่างทันท่วงที และเพียงพอกับความต้องการใช้ เพื่อลดความรุนแรงและการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19

 

นายอนุชา กล่าวว่า นโยบายรัฐบาลที่จะให้ไทยเป็นฐานการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ในภูมิภาคนั้น ขณะนี้ได้ให้องค์การเภสัชกรรมเร่งดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อเจรจากับผู้ขอรับสิทธิบัตร เพื่อให้ได้สิทธิผลิตยาชนิดนี้ในประเทศไทยได้เอง โดยองค์การเภสัชกรรมกำลังดำเนินการตามขั้นตอนการเพื่อให้ได้สิทธิยาฟาวิพิราเวียร์เข้ามาผลิตในประเทศ โดยการการพิจารณาคำขอรับสิทธิบัตรยาฟาวิพิราเวียร์นั้น รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของยาฟาวิพิราเวียร์ที่สามารถใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนโยบายในการจัดหายาให้เพียงพอต่อความจำเป็นอย่างทันท่วงที ซึ่งทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขอร่วมลงทุนผลิตยาฟาวิพิราเวียร์กับผู้ขอรับสิทธิบัตรในประเทศไทย เพื่อให้ไทยเป็นฐานการผลิตในภูมิภาค อีกทั้งยังมีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาตำรับยาขึ้นใหม่จากสารออกฤทธิ์หลักของยาฟาวิพิราเวียร์ที่ไม่มีสิทธิบัตรในประเทศไทย ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องรอผลการพิจารณาคำขอรับสิทธิบัตรในยาฟาวิพิราเวียร์รูปแบบยาเม็ด ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญายืนยันว่าการดำเนินการทุกขั้นตอน เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าโรงพยาบาลเอกชนนั้นก็ยังสามารถนำเข้ายาชนิดนี้ได้โดยรัฐไม่ได้มีการผูกขาดการนำเข้าแต่อย่างใด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯ" แจงปรับครม. ขอโทษ "ปานปรีย์" หากทำให้ผิดหวัง ประสานคนใหม่แทนแล้ว เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเพื่อไทย
รัฐบาลชื่นชม 2 แรงงานไทยสร้างชื่อเสียง คว้ารางวัลขวัญใจนายจ้างไต้หวัน
"นพดล" เคลื่อนวิสัยทัศน์นำอาเซียนสร้างสันติภาพเมียนมา หลังด้อมแดงเชียร์นั่งรมว.ต่างประเทศ
ดีเดย์วันนี้ ขนย้าย "กากแคดเมียม" ล็อตแรก 270 ตัน กลับคืนบ่อฝังกลบ จ.ตาก
ไม่ชินทาง "สิบล้อโม่ปูน" ชนคานทางด่วน ติดคาสะพาน สายบางพลี-สุขสวัสดิ์ 
“หนุ่มบางบ่อ” ร้องสื่อ ตะโกนห้ามสาดน้ำ ถูกยกพวกมารุมกระทืบคาตลาด
สภาพอากาศวันนี้ อุตุฯเตือนทั่วไทยร้อนจัด บางพื้นที่อุณหภูมิทะลุ 44 องศา เหนือ-อีสาน ฝนฟ้าคะนอง
ครัวกลางโลกเตรียมเข้าช่วยกาซาอีกครั้ง
ปาเลสไตน์ ผู้นำลั่น สหรัฐคือผู้ที่หยุดอิสราเอลได้
ยูเครน ผู้นำบิดเบือนข้อมูลสูญเสียทางทหาร

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น