เมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีเหตุการณ์ที่น่าจะมีหลายคนยังจำได้และคุ้นชื่ออยู่ นั่นคือเหตุการณ์นัท โอนไว โดนมิจฉาชีพสวมรอยใช้รูปโปรไฟล์สาวสวย มาหลอกเอาเงิน เสียไปเกือบ 1 แสนบาท
ล่าสุดมิจฉาชีพรายนี้ก็ยังไม่หยุดพฤติการณ์เดิมๆ ยังคงสวมรวมใช้รูปโปรไฟล์สาวสวยหลอกเหยื่อ และพบว่ามีผู้เสียหายอีกเพียบ ขณะที่หญิงสาวที่ถูกนำรูปไปใช้
วันนี้เธอมาเปิดใจกับทีมข่าวท็อปนิวส์ เพราะเธอได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และเตรียมที่จะดำเนินคดีกับมิจฉาชีพรายนี้ให้ถึงที่สุด รวมทั้งเชื่อว่าน่าจะทำเป็นขบวนการ
หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง มีการโพสต์ว่าตอนนี้เธอเดือดร้อนมาก ที่ถูกผู้หญิงคนหนึ่งเอารูปตัวเองไปแอบอ้างเพื่อใช้หลอกผู้ชายโอนเงิน ซึ่งคนที่ก่อเหตุนั้น ก็เป็นผู้ต้องหารายเดียวกับที่หลอกคุณนัท โอนไว ตามที่เคยเป็นข่าวมาแล้ว สำหรับการแอบอ้างนี้ คนร้ายนำรูปเราไปใช้ บอกว่าชื่อพิมพ์ มีลูกชื่อน้องจ๊ะจ๋า แล้วเอาข้อมูลไปโพสต์ตามเว็บหาคู่ ส่วนผู้ชายที่โดนหลอกก็มีหลายคน โอนเงินทีละประมาณ 500 – 1,000 บาท
นอกจากนี้พบว่ามีผู้เสียหายรายแรกเป็น หนุ่มกรุงเทพฯ ถูกใช้รูปน้องโบนัส แอบอ้างพูดคุยทางออนไลน์นานกว่า 2 ปีเต็ม หลอกโอนเงินหลายพันบาท แจ้งความที่ สน.คันนายาว แต่คดีก็ไม่คืบหน้า กระทั่งพบผู้เสียหายอีกราย เป็นหนุ่มอายุ 40 ปี เจ้าของร้านขายอาหารแห่งหนึ่ง ถูก “น้องพิมพ์” หลอกลักษณะเดียวกัน แต่เจ้าตัวเอะใจ จึงโอนเงินไปแค่ 2 ครั้ง พอปฏิเสธฝ่ายหญิงก็บล็อกการติดต่อ
โดยคุณโบนัส (หญิงสาวที่ถูกแอบอ้าง) เล่าว่ากว่าจะรู้ตัวก็พบว่ามิจฉาชีพรายนี้ นำรูปในเฟซบุ๊กของเธอไปใช้นานกว่า 2 ปีแล้ว จึงตัดสินใจตามสืบประวัติ จนพบว่าผู้ก่อเหตุคือคนเดียวกับ “น้องของขวัญ” หรือ ผึ้ง นันท์นลิล หญิงวัย 35 ปี ที่เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้กับ นัทโอนไว
ทั้งนี้คุณโบนัสยังได้ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า ใครก็ตามที่เป็นผู้เสียหาย กรุณาส่งข้อมูลมาให้ตนด้วย เพื่อที่จะเป็นหลักฐานเอาผิดต่อไป ส่วนมิจฉาชีพแม้เรื่องคุณนัท โอนไว จะจบลงไปแล้วด้วยการให้อภัย แต่สุดท้ายก็ยังมาหลอกคนอื่นอีก ทำผิดซ้ำซาก และเธอเตรียมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
กระทั่งทีมข่าวท็อปนิวส์ลงพื้นที่ไปยัง สน.คันนายาว เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าทางคดีกีบ พ.ต.อ.วาสุเทพ คงกล่อม ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า “… เบื้องต้นมิจฉาชีพรายนี้น่าจะเป็นคนเดียวกับที่เคยก่อเหตุเมื่อสองปีก่อน ในกรณีของนัทโอนไว โดยพฤติการณ์ของมิจฉาชีพรายนี้ มีการนำรูปของผู้เสียหายไปแอบอ้างว่าเป็นรูปของตน มีการออกอุบายหลอกเหยื่อที่เป็นผู้ชาย เพื่อให้โอนเงิน โดยอ้างว่ามีปัญหาทางธุรกิจหมุนเงินไม่ทัน และสุดท้ายจบลงด้วยการขอยืมเงิน ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยที่น่าเชื่อว่าเป็นมิจฉาชีพคนเดียวกันในฐานะพยาน ให้มาพบเพื่อสอบปากคำเบื้องต้น ทั้งนี้ทางตำรวจได้ออกหมายเรียกไปแล้วครั้งหนึ่ง หากยังไม่มาพบก็จะออกหมายเรียกครั้งที่สอง และถ้ายังไม่มาตามหมายเรียก ก็จะมีการติดตามตัวต่อไป …” ผกก.สน.คันนายาว ระบุ
