นายเจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการด้านกฎหมาย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่ม หรือเครือข่ายที่สนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรจะมีความผิดหรือไม่ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย 3 แกนนำคณะราษฎร นายอานนท์ นำภา นาย ภานุพงศ์ จาดนอก และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งว่า เรื่องนี้ต้องไปเชื่อมโยงกับเรื่องอาญา ต้องไปที่ศาลอาญาต่อ คนละเรื่องกับศาลรัฐธรรมนูญ แต่ศาลอาญา สามารถหยิบข้อวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมาพิจารณาได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้ระบุไว้แล้วว่าการกระทำดังนี้เป็นการล้มล้างการปกครอง ซึ่งจะไปเข้าข้อหาในส่วนไหนของกฎหมายอาญา ก็แล้วแต่ศาลอาญาจะดำเนินการ
ต่อข้อถามว่าหมายความว่าต้องมีคดีอยู่แล้วใช่หรือไม่ นายเจษฎ์ กล่าวว่า ต้องไปดำเนินการต่อ อาจจะมีคนไปแจ้งความ และก็ดำเนินการต่อไปตามนั้น เมื่อถามว่ากรณีเรื่องที่ผ่านมาแล้ว เช่นส.ส.ไปร่วมชุมนุม แต่ยังไม่มีการฟ้องร้องคดีอาญา ก็ทำอะไรไม่ได้ นายเจษฎ์ กล่าวว่า ใช่ ต้องดำเนินการต่อไป ถ้าต่อจากนี้มีการดำเนินการลักษณะนั้นอีก ทางตำรวจสามารถหยิบยกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าการกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่าย ซึ่งกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้กลุ่ม และองค์กร เครือข่ายเลิกกระทำการดังกล่าวด้วยนั้น ถือว่ารวมกันทั้งหมด ถ้าจะดำเนินการต่อก็แปลว่าเมื่อมีใครทำพฤติกรรมแบบนั้นอีก คนที่เห็นว่าการกระทำเข้าข่ายที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ ก็ไปดำเนินการทางอาญา แจ้งความกับตำรวจก็ว่าไป แต่ที่แจ้งความไว้แล้ว ไม่ได้ ต้องไปแจ้งใหม่
ต่อข้อถามว่า พรรคที่เคยสนับสนุนแก้ม.112 หรือสนับสนุนผู้ชุมนุม ถือว่ามีความผิดหรือไม่ นายเจษฎ์ กล่าวว่า ต้องไปดูว่า ทั้งหมดถือว่าเข้าข่ายเป็นเครือข่ายตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ ถ้าใช่ ความเชื่อมโยงกันก็ต้องเลิกการกระทำ ถ้าไม่เลิกกระทำคนที่จะดำเนินการตามกฎหมายอาญาก็ดำเนินการแจ้งความได้
