ภายใต้การอำนวยการของ พล.ตรี บรรยงค์ ทองน่วม ผบ.พล.ร9 พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี นายปกรณ์ กรรณวัลลี นอภ.สังขละบุรี พ.อ.เฉลิมพล ชัดใจ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน.ภ.จว.กาญจนบุรี รักษาราชการแทน ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.อรรถพล แพสะอาด ผบ.ร้อย ตชด.134 พ.ต.ท.ตฤณ ธวัช สว.ตม.กาญจนบุรี
จากการที่มีสายรายงานข่าวว่าจะมีการขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา จากเมืองพยาตองซู (เมียนมา)โดยใช้การเดินป่าในเส้นทางธรรมชาติ ก่อนจะผ่านเข้ามาในพื้นที่บ้านซองกาเลีย ม 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่อใช้รถยนต์ลำเลียงไปยังพื้นที่ตอนใน ของจังหวัดกาญจนบุรี ในช่วงคืนวันที่ 9 ที่ผ่านมา
พ.อ.ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง.ผบ.ฉก.ลาดหญ้า ร.ท.ยุทธบดินทร์ ชุมแรง หน.หมวดลาดตระเวนที่ 1 ฉก.ลาดหญ้า ได้จัดกำลังทหารเข้าซุ่มบริเวณป่าข้างสนามบินเก่าบ้านซองกาเลีย พร้อมทั้งได้ประสานพ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ ให้ทราบเพื่อบูรณาการข่าวและการจับกุมร่วมกัน
จนกระทั่งในช่วงเวลา 03.10 น.ได้มีรถยนต์เก๋ง สีขาวยี่ห้อนิสสัน ขับเข้ามาในพื้นที่เพื่อรับแรงงานเมียนมา เจ้าหน้าที่ทหารพยายามเข้าจับกุม แต่คนขับไหวตัวทันได้ขับรถออกก่อนขับออกไป โดยมุ่งหน้าจากบ้านซองกาเลีย ไปทางสามแยกซองกาเลีย เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้แจ้งข่าวให้ พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ รรท.ผกก.สภ.สังขละบุรี ทราบ เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตรวจสอบรถคันดังกล่าว
ขณะที่หลังจากได้รับการประสาน พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี ร.ต.อ.ประดิษฐ์ แร่เพชร ด.ต.เพียร ฉลูรัตน์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี เข้าซุ่มเพื่อรอจับกุมขบวนขนแรงงานต่างด้าวบริเวณป้อมตำรวจสามแยกซองกาเลีย ม 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
ต่อมาในเวลา 03.30 รถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งเป็นรถยนต์เก๋งสีขาว ยี่ห้อ นิสสัน ทะเบียน กข 7526 สมุทรสงครามขับผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้จอดพร้อมเข้าตรวจสอบพบ นายลมูล (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ชาว ต.หนองสะเดา อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เป็นคนขับ นอกจากนั้นยังพบ แรงงานชาวเมียนมา จำนวน 8 คน (ชาย3หญิง5)นั่งมาในรถคันดังกล่าว จึงได้นำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม และ ฝ่าฝืนเดินทางออกนอกเคหะสถานในเวลาระหว่าง 22.00-04.00 น ตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 4788/2564 ลงวันที่ 30 กันยายน 2564 และ เป็นผู้สนับสนุนการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว ตามประกาศจังหวัดกาญจนบุรี เรื่องมาตรการและแนวทางการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในเขตพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และกรณีข้ามจังหวัดกาญจนบุรี ลงวันที่ 10 มิ.ย.2564 แก่นายลมูล ขุนทา คนขับรถ
และแจ้งข้อกล่าวหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย และ ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี 4788/2564 ลงวันที่ 30 ก.ย.2564 และ เป็นแรงงานต่างด้าว เคลื่อย้ายแรงงานต่างด้าว ตามประกาศจังหวัดกาญจนบุรี เรื่องมาตรการและแนวทางการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในเขตพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และข้ามเขตจังหวัดกาญจนบุรี ลงวันที่ 10 มิ.ย.2564
จากการสอบสวนนายลมูล เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองได้รับการว่าจ้างจากนายโชค หรือ โชค ไม่ทราบนามสกุล ให้ขับรถรับแรงงานชาวเมียนมาทั้งหมดจากสนามบินเก่าบ้านซองกาเลีย ไปส่งให้บริเวณจุดพักรถเนินช้างร้อง โดยนายโชคหรือนายต้น ไม่มีนามสกุล ได้นำรถยนต์เก๋งนิสสัน สีขาว ทะเบียน กข 7526 สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นของนายโชค มาให้ใช้ในการขนแรงงานต่างด้าว โดยตนเองได้ค่าจ้าง หัวละ 300 บาท (รวมเป็นเงินทั้งหมด 2,400 บาท) จากการสอบถามแรงงานชาวเมียนมาทั้งหมดให้ข้อมูลว่า ทั้งหมดจะเดินทางไปทำงานที่ตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร โดยเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางคนละ 25,000-28,000 บาท ซึ่งบางคนได้จ่ายเงินให้กับนายหน้าในพื้นที่ อ.พยาตองซู เมียนมาไปแล้ว
ซึ่งจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่พบว่า นายลมูล เคยถูกจับดำเนินคดีในข้อหาเดียวกันนี้เมื่อหลายเดือนก่อนและเพิ่งจะพ้นโทษมาได้ไม่นาน ส่วนนายโชคหรือนายต้น เป็นชาวเมียนมาที่เข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จนปัจจุบันได้รับบัตรบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรรหัส.0) ที่ออกให้ด้วยสำนักทะเบียนอำเภอสังขละบุรี โดยนายโชค หรือ นายต้น ไม่มีนามสกุล เป็น 1 ในขบวนการขนแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ที่มีความเชื่อมโยง
ซึ่ง พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามรวบรวมหลักฐาน เพื่อหาความเชื่อมโยงทางคดี เพื่อขอให้ศาลอนุมัติออกหมายจับ คนที่เกี่ยวข้องและมีส่วนในการกระทำความผิดครั้งนี้ เพื่อนำตัวมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป เนื่องจากปัจจุบันปัญหาขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเป็นเรื่องสำคัญที่ พล.ต.อ สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบนโยบายให้ทุกสถานีตำรวจจับกุมดำเนินคดีเฉียบขาด
ศุภชัย พลทิพย์ จ. กาญจนบุรี