“Lion Cut” ไม่ดีต่อสุนัขที่มีขน 2 ชั้นไม่ควรตัดโกนขนจริงหรือ

ดร.เจษฎา บอกต่อว่า บางครั้งผู้ที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์ที่มีขนแบบ 2 ชั้น (Double-Coated) เห็นว่าสุนัขของตนเกิดการผลัดขน มีขนร่วงเป็นจำนวนมาก เลยอาจจะคิดว่า ถ้าไปช่วยโกนขนให้มัน ก็น่าจะทำให้การผลัดขนเกิดขึ้นได้ดีขึ้น … แต่จริง ๆ แล้ว การตัดโกนขนให้เป็นทรงคล้ายสิงโต “Lion Cut” หรือการโกนขน กับสุนัขที่เป็นพวก 2 ชั้น (Double-Coated) นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ !

เพราะการโกนขน จะเป็นการตัดเอาขนชั้นนอกทิ้งไป ซึ่งเป็นชั้นที่ช่วยป้องกันสุนัขจากแสงแดด การโกนขนจึงกลับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่สุนัขจะร้อนจนเกินไป เกิดอาการผิวไหม้แดด หรือแม้กระทั่งนำไปสู่การเป็นมะเร็งผิวหนังได้

… ขนชั้นนอก ที่มีเส้นยาว ๆ และปกคลุมร่างกายอย่างหลวม ๆ นั้น ยังทำให้ลมเย็น ไหลผ่านผิวหนังและช่วยระบายความร้อน ได้ดีกว่าการที่โกนขนจนเหลือแต่ขนเกรียน ๆ สั้น ๆ ของทั้ง 2 ชั้น ซึ่งกลับทำให้ระบายความร้อนได้แย่ลง

นอกจากนี้ หลังจากที่โดนโกนขน ส่วนเนื้อสัมผัสของขนของสุนัขที่มีขนแบบ 2 ชั้น (Double-Coated) นั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยขนชั้นนอกที่เป็นขนปกคลุมป้องกัน (Guard hair) เมื่อเคยถูกโกนแล้ว จะเปลี่ยนเป็นขนที่หยาบขึ้น และทำให้พวกดอกหญ้า / กิ่งไม้เล็ก ๆ ติดตามขนได้ง่าย

ยิ่งกว่านั้น ถ้าสุนัขมีอายุมากหรือสุขภาพไม่ดี ขนของมันก็อาจจะไม่งอกกลับมาเหมือนเดิมหลังจากโกน การโกนขนยังทำให้สุนัขมีผิวหนังบริเวณเส้นขนพันกัน และมีอาการระคายเคืองผิวได้ง่าย ยิ่งถ้าเอาสุนัขไปอาบน้ำ ก็จะยิ่งมีปัญหาเส้นขนพันกันแน่นขึ้นอีก และทำให้สุนัขไม่สบายตัวมากยิ่งขึ้น

ส่วนสุนัขสายพันธุ์ที่มีขนชั้นเดียว (Single-Coat) นั้น เราสามารถจะโกนขนมันซ้ำ ๆ ได้ เนื่องจากการโกนขนไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลง เนื้อสัมผัส (Texture) ของขนโดยรวมของพวกมัน ขนของมันก็ยังคงกลับมางอกยาวขึ้นเรื่อย ๆ ได้ … ขณะที่ขนของสุนัขสายพันธุ์ที่เป็นขนแบบ 2 ชั้น (Double-Coated) จะงอกขึ้นมาถึงแค่ความยาวระดับหนึ่ง และก็จะหยุดงอกต่อ

ดังนั้น ถ้าคิดว่าจะโกนขนสุนัข ก็ควรที่จะต้องปรึกษาช่างตัดขนสุนัขมืออาชีพ (หรือ สัตวแพทย์) เสียก่อน เพราะช่างมืออาชีพจะมีประสบการณ์มากพอ ที่จะทราบว่าควรจะให้บริการสุนัขของคุณ ด้วยวิธีไหน ถึงจะดีที่สุด