เทสลาเตรียมเลิกจ้างพนักงานทั่วโลกมากกว่า 10% หลังยอดขายลดจากสงครามราคารถอีวีเดือด
เมื่อวันจันทร์ เทสลาผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั่วโลกมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะปลดพนักงานออกกี่ตำแหน่ง ซึ่งตามข้อมูลในรายงานประจำปี ณ เดือนธันวาคม 2566 เทสลามีพนักงาน 1 แสน 4 หมื่น 479 คนทั่วโลก
อีลอน มัสค์ ซีอีโอของเทสลากล่าวในบันทึกภายในของบริษัทว่า เพื่อเตรียมการสำหรับการเติบโตในระยะต่อไป สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือ การลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตในทุกแง่มุม ส่วนหนึ่งของความพยายามนี้ เราได้ตรวจสอบองค์กรอย่างละเอียดถี่ถ้วน และทำการตัดสินใจที่ยากลำบาก ในการลดจำนวนพนักงานลงมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลก
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเลิกจ้างเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เทสลากำลังต้องดิ้นรนเพื่อรักษาการเติบโต โดยบริษัทรายงานในเดือนนี้ว่า การส่งมอบรถเทสลาทั่วโลกในไตรมาสแรก ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสี่ปี เนื่องจากกลยุทธ์หั่นราคา ไม่สามารถกระตุ้นความต้องการได้
บริษัทกำลังจำเป็นต้องมองหาการเพิ่มอัตรากำไร ซึ่งได้รับผลกระทบจากการลดราคาซ้ำแล้วซ้ำอีก เทสลาบันทึกอัตรากำไรขั้นต้นที่ร้อยละ 17.6 ในไตรมาสที่สี่ ซึ่งต่ำที่สุดในรอบกว่าสี่ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน ที่เผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งในท้องถิ่น รวมถึง บีวายดี ที่กลายเป็นผู้นำตลาด แซงหน้าเทสลาของบริษัทสหรัฐในฐานะผู้ผลิตอีวี รายใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วงสั้นๆเมื่อไตรมาสที่สี่ปีที่แล้ว และ เสียวหมี่ ผู้เล่นรายใหม่
นอกจากนี้ เทสลากำลังเตรียมพร้อมที่จะเริ่มจำหน่ายในอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่อันดับ 3 ของโลกในปีนี้ โดยผลิตในเยอรมนีและส่งออกไปยังอินเดีย พร้อมเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการในเมืองใหญ่ๆ
จนถึงขณะนี้ ราคาหุ้นของเทสลา มีราคาลดลงประมาณ 31 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่เคยร้อนแรงมาอย่างยาวนาน ขณะที่หุ้นของ ผู้ผลิตรถยนต์สันดาปแบบดั้งเดิมอย่าง โตโยต้า มอเตอร์ และ เจเนอรัล มอเตอร์ พุ่งขึ้น 45 เปอร์เซ็นต์ และ 20 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ หลังอัตราการเปลี่ยนไปใช้รถอีวีของผู้บริโภคชะลอตัวลง