ฝรั่งเศสจ่อปรับผู้ป่วยไม่มาพบหมอตามนัดครั้งละ 5 ยูโร แก้ปัญหาแพทย์ขาดแคลน
นายกรัฐมนตรี กาเบรียล แอตทาล ของฝรั่งเศสประกาศว่า รัฐบาลกำลังเตรียมเสนอมาตรการปรับผู้ป่วย เป็นจำนวนเงิน 5 ยูโร (ราว 197 บาท) หากพวกเขาไม่มาพบแพทย์ตามนัด โดยไม่มีเหตุผลเหมาะสม
มีรายงานว่านโยบายดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนระบบบริการด้านสาธารณสุข เนื่องจากต้องดิ้นรน เพื่อรับมือกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของประชากรสูงวัย ท่ามกลางการขาดแคลนบุคลากร และต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
แอตทาล กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ในแต่ละปีมีผู้ป่วยประมาณ 27 ล้านคน ที่ไม่มาพบแพทย์ตามนัด ซึ่งเราไม่สามารถปล่อยให้ปัญหานี้ดำเนินต่อไป และว่า มาตรการใหม่นี้ จะช่วยให้เกิดการนัดหมายของผู้ป่วยรายอื่นๆเพิ่มเติม ได้ถึง 15-20 ล้านครั้งต่อปี ซึ่งหลังจากนี้ข้อเสนอดังกล่าว จะถูกส่งเข้ารัฐสภาเพื่อพิจารณาต่อไป และหากสำเร็จจะเริ่มมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568
ภายใต้แผนดังกล่าว ผู้ป่วยจะต้องให้รายละเอียดบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต เมื่อทำการนัดหมาย และหากพวกเขาไม่มาตามนัด โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง แพทย์ก็สามารถปรับเงินได้ ส่วนผู้ป่วยที่มีเหตุผลสมควร จะได้รับการยกเว้นการเสียค่าปรับ ซึ่งขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแพทย์ที่จะตัดสินใจว่า เหตุผลที่พลาดการนัดหมายนั้น สมเหตุสมผลเพียงพอ ที่จะหลีกเลี่ยงการถูกปรับหรือไม่
อย่างไรก็ดี ทันทีที่ประกาศออกไป นโยบายนี้ก็ถูกวิจารณ์โดยสมาคมแพทย์และผู้ไม่เห็นด้วย นายแพทริค เปลโลซ์ ประธานสมาคมแพทย์ฉุกเฉินกล่าวว่า เป็นวิธีที่รัฐบาลหาทางเก็บภาษีเพิ่มเท่านั้น แต่จะไม่มีผลดีต่อระบบสาธารณสุข ส่วนแพทย์อีกกลุ่มกล่าวว่า การให้หมอเรียกเก็บค่าปรับ จะทำให้ความสัมพันธ์กับผู้ป่วยตึงเครียด และนายเจอราร์ด เรย์มอนด์ ประธานสมาคมผู้ป่วยแห่งฝรั่งเศสคัดค้านบทลงโทษนี้ ซึ่งเขาเห็นว่า มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้ผู้ป่วยรู้สึกผิด มากกว่าที่จะรับผิดชอบ
ทั้งนี้ การขาดแคลนแพทย์เป็นปัญหาใหญ่ที่สุด ที่ระบบสาธารณสุขของฝรั่งเศสกำลังเผชิญมายาวนาน ควบคู่ไปกับการเข้าถึงการรักษา และการรอคอยที่ยาวนาน แอตตาลกล่าวอีกว่า เขายังพยายามเพิ่มจำนวนนักศึกษาแพทย์ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากร โดยเล็งเพิ่มจำนวนนักศึกษาเพิ่มขึ้นจาก 1 หมื่นคนต่อปี ในปี 2566 เป็น 1 หมื่น 2 พัน คนในปี 2568 และ 1 หมื่น 6 พันคนในปี 2570