No data was found

ลูกสาวเจ้าของเต้นท์รถ เตรียมตั้งค่าหัวล่าขโมย หลังอุ้ม“เจ้าลิซ่า”สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนไป

กดติดตาม TOP NEWS

ลูกสาวเจ้าของเต้นท์รถ เตรียมตั้งค่าหัวขโมย 5 พัน หลังโพสต์คลิป “เจ้าลิซ่า”ถูกลักอุ้มขึ้นรถเก๋ง ให้เวลา 3 วัน นำมาคืนจะไม่เอาความ

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปภาพคนร้ายขับรถเก๋งสีขาว ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน มาจอดบริเวณริมถนนหน้าบ้าน ซึ่งเปิดเป็นเต้นท์ขายรถยนต์มือสอง อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 2350 หนองหาน-กุมภวาปี เลขที่ 316/7 ม.7 บ.เหล่าหมากบ้า ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปภาพผู้โดยสารที่นั่งอยู่ด้านหน้าเปิดประตูลงมาอุ้มเอา “เจ้าลิซ่า” สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน สีน้ำตาล อายุ 9 ปี เศษ ขึ้นรถหลบหนีไปทาง อ.หนองหาน อย่างรวดเร็ว

โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “เตือนภัยคะ!! น้องหมาวิ่งเล่นอยู่หน้าบ้าน (น้องแอบวิ่งออกจากรั้วในบ้านและน้องไม่เคยข้ามถนนค่ะ) แต่มีพวกหัวขโมยมาอุ้มขึ้นรถไปที่หน้าบ้านเลยค่ะ ขอความช่วยเหลือทีนะค่ะ ต้องจัดการยังไงดีค่ะ เบื้องต้นกำลังจะไปแจ้งความค่ะ น้องหมาที่อยู่ด้วยกันมาเกือบ 10 ปี ทำใจไม่ได้จริงๆค่ะ และเขาไม่มีสิทธิ์มาอุ้มน้องหมาคนอื่นไปแบบนี้” ล่าสุดทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.กุมภวาปีแล้ว หลังจากได้คำแน่นำจากโลกโซเชียล และมีการแชร์ภาพและข้อมูลไปตามเพจดังต่างๆในพื้นแล้ว และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะต่อว่าหัวขโมยที่ลักอุ้มสุนัขไป

วันที่ 5 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบผู้เสียหายคือ นางสาววิภาพรรณ ขันทะแพทย์ หรือน้องหมวย อายุ 23 ปี ชาวบ้านเหล่าหมากบ้า ต.แชแล อ.กุมภวาปี ลูกสาวคนเล็กเจ้าของกิจการเต้นท์รถมือสอง “ทองสุกรถบ้าน สาขา 2” ได้พาไปบริเวณจุดที่หัวขโมยจอดรถแล้วเดินลงมาอุ้มเอา “เจ้าลิซ่า” ขึ้นรถเก๋งหลบหนีไป และกล้องวงจรปิดหน้าบ้านบันทึกภาพเอาไว้ขณะก่อเหตุ โดยระบุเวลา 16 .53 น.วันที่ 3 กันยายน 2564 ก่อนโพสต์คลิปลงเฟสบุ๊ก ให้ชาวโซเชียลช่วยเหลือติดตามน้องหมากลับคืนมา ก่อนเข้าแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.กุมภวาปี โดยให้เวลาคนร้าย 3 วัน หากนำมาคืนจะไม่ติดใจเอาความ แต่หากยังไม่นำมาคืน จะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

นางสาววิภาพรรณ ขันทะแพทย์ หรือน้องหมวย เจ้าของเจ้าลิซ่า เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นน้ำตาคลอว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อของที่ร้านค้าในหมู่บ้านราว 5 นาที โดยมีเจ้าลิซ่าวิ่งตามไปส่งที่หน้าบ้าน และทุกครั้งปู่จะเป็นคนเรียกมันกลับเข้าบ้าน แต่วันนั้นปู่ไม่รู้ทำอะไรอยู่หลังบ้าน จึงไม่รู้ว่าเจ้าลิซ่าวิ่งออกไปนอกบ้าน กลับมาพบว่าเจ้าลิซ่าหายไป สอบถามคุณปู่ก็ไม่รู้เรื่อง จึงเดินไปสอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้ามกัน เห็นรถเก๋งสีขาวขับมาจอดแล้วมีคนลงมาอุ้มขึ้นรถไป จึงมาเปิดกล้องวงจรปิดดูพบคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 25-30 ปี เปิดประตูรถเดินลงมาอุ้มเจ้าลิซ่าไป จึงนำคลิปภาพเขาแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

ลิซ่าเป็นสุนัขแสนรู้ ตนซื้อมาเลี้ยงพร้อมกับเจ้ากังฟู ซึ่งเป็นสุนัขพันธุ์เดียวกัน ในราคาตัวละ 5 พันบาท และมีลูกมา 4 คอกแล้ว เมื่อโต ตนก็จะให้ญาติหรือคนที่รักสุนัขจริงๆไปเลี้ยงดู เพราะเป็นสุนัขที่เลี้ยงหรือดูแลอยาก เนื่องจากมีต้นทุนในการเลี้ยงดูแลรักษาที่สูงพอสมควร และอยู่กับตนมาเกือบ 10 ปี เป็นเสมือนลูกของตน หรือเป็นหนึ่งในสมาชิกในครอบครัวก็ว่าได้ เพราะกินนอนอยู่กับตนมาตลอด ไม่คิดว่าเจ้าลิซ่าจะมาถูกขโมยไปแบบนี้ เมื่อรู้ว่าเจ้าลิซ่าถูกขโมยไป ทุกคนภายในครอบครัวต่างพากันร้องไห้ โดยเฉพาะตนเมื่อคืนที่ผ่านมาร้องไห้คิดถึงมันทั้งคืน และตั้งแต่เลี้ยงมันมา กิจการเต้นท์รถมือสองของพ่อก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะประสบโควิดระบาด จนมาเปิดสาขา 2 ตรงนี้ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพ่อมาได้ 1 ปีเศษ ส่วนสาขาแรกเปิดที่ อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่”

น้องหมวย เปิดเผยต่อว่า อยากฝากถึงหัวขโมย หากคุณรักน้องหมาไม่ควรทำอย่างนี้ เพราะเขามีเจ้าของ โดยให้นำมาคืน ตนจะไม่ติดใจเอาความ โดยให้เวลาเพียง 3 วัน หากไม่นำเงินก็จะตั้งเงินรางวัลนำจับ5,00 บาท ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ถ้าอยากเลี้ยงสุนัขก็ควรหาซื้อมาเลี้ยง ไม่ใช่มาขโมยของชาวบ้านไป และคุณควรรูว่าสุนัขพันธุ์นี้ต้องมีเจ้าของ และก่อนซื้อน้องหมามาเลี้ยง ควรศึกษาหาความรู้ในการเลี้ยงดูเขาให้ถูกวิธี เนื่องจากตนเลี้ยงเจ้าลิซ่ามาเกือบ 10 ปี ไม่เคยให้มันกินข้าวหรืออาหารอย่างอื่นเลย นอกเสียจากอาหารเม็ดเท่านั้น เพราะสุนัขพันธุ์ปอมฯ จะท้องเสียหากกินอาหารที่เขาไม่เคยกินเข้าไป เวลาเขาไม่สบายก็ต้องพาไปหาหมอ ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าลิซ่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่รู้

*ด้าน พ.ต.ต.สุขสันติ์ สืบสหการ สว.สืบสวน สภ.กุมภวาปี เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า หลังทราบข้อมูลจากผู้เสียหายว่า จะขอให้เวลาหัวขโมยนำสุนัขมาคืน และจะไม่ติดใจเอาความ หลังจากลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่โรงพักช่วงค่ำวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา แต่ทางเราก็ไม่นิ่งนอนใจ และได้ลงพื้นที่แกะรอยคนร้ายตามเส้นทางที่หลบหนี ไปพร้อมกัน เพราะเกรงว่าคนร้ายจะนำน้องหมาไปปล่อยทิ้ง และได้รับอันตราย ซึ่งคาดว่าหัวขโมยน่าจะรู้ตัวแล้ว และกำลังคิดว่าจะนำเอาสุนัขมาคืนเจ้าของดังกล่าว

ภาพ/ข่าว กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อุดรธานี

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"รัฐบาล" ฝ่าแรงเสียดทานทำประชามติ "แก้รธน." แจกเงินดิจิทัล สกัด"กองทัพ"ทำรัฐประหาร
“จุลพันธ์” ย้ำไม่เห็นความเป็นห่วง "ดิจิทัลวอลเล็ต" พร้อมแจ้งบอร์ดธกส.เดินหน้าตามมติครม.
"เต้ มงคลกิตติ์" ดอดซบปชป.แล้ว เข้ากราบ "ชวน หลีกภัย" ยอมรับสาเหตุร่วมเป็นสมาชิกพรรค
ศาลอาญาเพิกถอนหมายจับ “สนธิญา” คดีหมิ่น “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์” นัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง 27 พ.ค.นี้
สศร.เตรียมมอบธง "Thailand Biennale ภูเก็ต ครั้งที่ 4" เปิดผลสำเร็จเบียนนาเล่เชียงราย  เงินสะพัด 2.4 หมื่นล้าน - จ้างงาน 8 พันอัตรา
"สุชาติ" เข้าทำเนียบ ดอดขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าพบนายกฯ หลังมีชื่อเสียบนั่งรมต.
"รัฐบาล" ห่วงประชาชน แนะดูแสุขภาพ ช่วงอากาศร้อนจัด "กลุ่มเสี่ยง" เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง
วธ.ปลื้มประชาชนแห่ร่วมงานวันสุดท้าย "ใต้ร่มพระบารมี 242 ปี กรุงรัตนโกสินทร์" ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กระตุ้นเศรษฐกิจชาติ
Top News เดินหน้าชำแหละซ้ำ ปัญหาสลากฯแพง ผู้พิการร้องเข้าไม่ถึงโควต้าโดนสมาคมฯปิดกั้น "นอท" โผล่ขายเย้ยกม.
"ผบก.น.2" ยันไม่มี 2 มาตรฐาน ชี้พบเส้นเงิน 32 เส้นเชื่อมโยงเว็บพนัน BNK จ่อเรียกสอบ "บิ๊กต่อ"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น