จากสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างหนัก มีจำนวนผู้ติดเชื้อ ล่าสุดเมื่อวานนี้ มีผู้ป่วยรายใหม่อยู่ที่ 1,458 รายผู้ป่วยยืนยันสะสม 46,643 ราย , หายป่วยแล้ว 29,371 ราย , เสียชีวิตสะสม 110 ราย นั้น ขณะที่ ภาครัฐ สถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ต่างก็ออกมารณรงค์ขอผู้ที่เสี่ยงสูงในการติดเชื้อไม่ควรปกปิดไทม์ไลน์ เพื่อป้องกันไม่ให้บุคลากรทางการแพทย์ หรือ ผู้สัมผัสคนอื่นต้องมาเสี่ยงได้รับเชื้อไปด้วย
ขณะที่ ผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง ชื่อว่า พลสิทธิ์ เลิศนภาพงศ์ โต้งเมฆา ซึ่งเป็นอาสากู้ภัยกตัญญู ได้ออกมาตำหนิ ญาติผู้ติดเชื้อรายหนึ่งซึ่งเป็นหญิงชรา มีอาการแน่นหน้าอก แต่ได้ปกปิดข้อมูลตัวเอง เพราะไม่อยากรอรับการรักษาที่บ้าน อยากให้รถ รพ.มารับไปรักษา โดยอาสารายนี้ ได้โพสต์ไว้ว่า
คุณแย่มากนะ ที่ปกปิดข้อมูลในผู้ป่วย Covid-19 โคตรเลวบริสุทธิ์จริงๆ เจริญกรุง 82 บ้านเลขที่ 106เบอร์โทรญาติผู้แจ้งและปกปิด 095-4944297ทำดีได้เหี้…เฉยเลยไอชิบหายขอร้องเถอะครับ บอกความจริงอย่าปกปิดเลยครับ อาสามูลนิธิ บุคลากรทางการแพทย์ ผมทำด้วยใจ ไปด้วยความที่อยากช่วยเหลือจริง ๆ แต่ผลที่ได้รับ เพราะไอความที่คุณเห็นแก่ตัวแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ถ้าคุณบอกความจริง ผมและน้อง ๆ ก้อไม่ต้องมากักตัวเสียเวลาการทำงานเสียความรู้สึกแบบนี้ ชีวิตใคร ใครก้อรักนะครับ ผมเข้าใจ แต่อย่าเห็นแก่ตัว เอาเหี้ยให้คนอื่นแบบนี้ครับ ไม่น่ารักเลย #SAVE_อาสากู้ชีพ_กู้ภัย_บุคลากรทางการแพทย์
#โต้งเมฆา18
#กู้ภัยร่วมกตัญญู_ฐานโลตัสพระราม3
#ความหวังของหมู่บ้าน
เป็นอีกวัน อีกเคส ที่ทีมเรารู้สึกแย่มาก #เรื่องเศร้าที่เราเข้าถึง ผู้ป่วยเป็นโควิด ญาติผู้ป่วยปกปิดข้อมูล รับแจ้ง ผู้ป่วยเจ็บแน่นหน้าอก หญิง 86 ปี ขอความช่วยเหลือ เจริญกรุง ซ.82 แรกพบ ตอนเราไปถึงบ้านผู้ป่วย ติดเตียง
สอบถามญาติ มีท่านใดไปที่สุ่มเสี่ยงมาหรือไม่ มีใครเป็นโควิดหรือป่าว ญาติตอบเราว่า ไม่มีใครในบ้านเป็นโควิด ( ทีมเราถามถึง3ครั้ง )ญาติยังคงยืนยันคำเดิมว่า ไม่มีใครในบ้านติดโควิด
ทีมเราจึงดำเนินการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยส่ง รพ.เจริญกรุง พอถึง รพ.เจริญกรุง พยาบาลตรงจุดคัดกรองสอบถาม ญาติแจ้งกับพยาบาลตรงจุดคัดกรองว่า ผู้ป่วยที่ทีมเรา ได้การช่วยเหลือเคลื่อนย้ายมา ( #ติดโควิด )แล้วผู้ป่วยติดเตียง เดินไม่ได้ ไม่สามารถออกไปพบผู้คนนอกบ้านได้ เค้าติดโควิดได้อย่างไร หากไม่มีบุคคลในบ้านนำมาติดแสดงว่าเคสนี้ ต้องมีคนเป็น โควิด มากกว่า 1 ราย คุณรอรถพยาบาลมา 2 วัน คุณรักชีวิต ญาติปกปิดข้อมูล เพื่อให้เราช่วยเหลือส่ง รพ. เอาคนเป็นโควิดออกจากบ้าน เราก็รักชีวิต เรามาช่วยด้วยใจ ครอบครัว ลูก เมีย พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ของเราก็มี แล้วถ้าเราติดเชื้อจากการมาช่วยคุณ เพราะคุณปกปิดข้อมูล กลับไปพบครอบครัวที่เรารัก แล้วพวกเค้าเหล่านั้น ติดจากเรา ( #ใครจะรับผิดชอบ )
เคสนี้ ทีมเราออกปฏิบัติหน้าที่ 3 ท่าน ตอนนี้ทั้ง 3 ท่าน รับผิดชอบต่อสังคม หยุดออกปฏิบัติงานอาสาสมัครแยกย้ายกันกักตัว ดูอาการ เพื่อความปลอดภัยของครอบครัว คนรัก และเพื่อนๆอาสาสมัคร รถที่ใช้ออกให้การช่วยเหลือ
ช่วงนี้ทางกู้ชีพเจริญกรุง ได้ทำการพ้นยาฆ่าเชื้อให้เบื้องต้น
ฝากถึงทางญาติว่า ต้องให้ประวัติตรงไปตรงมา ถ้าเสี่ยงก็บอกว่าเสี่ยง ถ้ารู้ผลว่าติด ก็บอกว่าติด เพราะ จนท. จะได้เตรียมอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสมมาใช้ในการเคลื่อนย้าย แบบถ้าเป็นเคสที่ชัวร์ ๆ แล้วว่า โควิด เขาก็จะได้ใส่ชุด PPE มาขนคนไข้ ขนเสร็จก็เอารถไปทำความสะอาด รอรับเคสต่อไป