วันที่ 7 ส.ค. 2564 ที่ศาลาการเปรียญวัดเขาพระทอง หมู่ 1 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้มีการประกอบพิธีบวงสรวง บอกกล่าว ขออนุญาต เทพยดา ฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่สิงสถิต ณ.พุทธสถานวัดเขาพระทอง โดยพิธีพราหมณ์โดย “พราหมณ์เล็ก เขาเหมน “และพิธีทางพุทธศาสนาสวดถอน และสวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อทำการรื้อถอนศาลาการเปรียญหลังดังกล่าว นำพื้นที่ก่อสร้างอุโบสถวัดเขาพระทอง หลังจากการรวบรวมปัจจัยจากการร่วมบริจาคของพุทธบริษัทจากทั่วประเทศผ่านการเดินธุดงค์ธรรมยาตรา “กรุงเทพมาหานคร” 810.4 กม. ระหว่างวันที่ 4 มี.ค.-4 เม.ย. 2564 รวมระยะเวลา 32 วัน จากกรุงเทพ รวบรวมปัจจัยได้กว่า 3 ล้านบาท โดยมีนายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช,พัทลุง เป็นประธานในการประกอบพิธี ท่ามกลางมาตรการการควบคุมป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และมีการถ่ายสดทางเพจ “ข่าวตีแผ่” อีกด้วย
หลังจากนั้นมีการเสวนาธรรมผ่านระบบออนไลน์ โปรแกรม Zoom โดยมีผู้ร่วมรายการหลักประกอบด้วยพระมหาอารยนันต์ อานันโท รักษาการเจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง กับ ไพฑูรย์ อินทศิลา “คนข่าวตัวดำ” สื่ออาวุโส ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ในหัวข้อ “ ทำบุญอย่างไรให้ห่างไกลโควิด-19, ธรรมะช่วยสู้โควิดได้อย่างไร และพระสงฆ์กับสื่อในช่วงโควิด -19 ปิดท้ายด้วยหัวข้อการประชาสัมพันธ์บอกบุญสมทบทุนร่วมสร้างอุโบสถวัดเขาพระทอง
ทางด้านพระมหาอารยนันต์ อานันโท กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ระลอกที่ 3 ทำให้การกำหนดเวลาการก่อสร้างโบสถ์วัดเขาพระทองตามกำหนดการเดิมต้องเลื่อนออกไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีกำหนดที่แน่นอน แต่ได้มีการลงนามทำสัญญาก่อสร้างโบสถ์กับบริษัทออกแบบและรับเหมาก่อสร้างไปก่อนหน้าแล้ว ซึ่งต้องใช้งบประมาณการก่อสร้าง 15 ล้านบาท โดยจะจ่ายเป็นงวด ๆ รวม 15 งวด ๆละ 1 ล้านบาท แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ภาครัฐต้องออกมาตรการในการีคสวบคุมป้องกันอย่างเข็มงวดกวดขันมากยิ่งขึ้น ส่งผลกระทบต่อการจัด ศาสนพิธีทางศาสนา พิธีกรรมต่าง ๆ รวมทั้งจัดกิจกรรมอื่น ๆ อาทิ การทอดผ้าป่าสามัคคี การวางศิลาฤกษ์สร้างโบสถ์ อาตมาจึงปรึกษาหารือกับคณะกรรมการวัดและผู้ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย เห็นว่าหากปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้เริ่มต้นทำอะไรเลย จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและศรัทธาของพุทธศาสนิกชน จึงตกลงกันว่าจะทำอะไรที่ทำได้ไปก่อน และค่อยมาประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ จึงกำหนดประกอบพพิธีบวงสรวงบอกกล่าวเทพยดาฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะหลวงพ่อองค์ใหญ่ อายุกว่า 800 ปี พร้อมพิธีสวดถอนศาลาการเปรียญซึ่งก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2528 หรือ 36 ปีมาแล้ว มีสภาพชำรุด ผุงพังมากแล้ว เพื่อนำพื้นที่มาก่อสร้างโบสถตามขั้นตอนต่อไป ก่อนหน้านี้ทางวัดได้ทำการก่อสร้างกุฏิที่พักสงฆ์เพื่อให้พระสงฆ์วัดเขาพระทองจำนวน 5 รูปที่พำนักพักในศาลาการเปรียญไปพำนักในกุฏิใหม่ พร้อมก่อสร้างสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 2-3 องค์เพื่อย้ายพระพุทธรูปจากในศาลาการเปรียญไปประดิษฐานยังที่ใหม่ซึ่งทั้งสองส่วนได้ดำเนินการไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว และในระหว่างวันที่ 8-9 ส.ค. 2564 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 และกำลังทหารกองทัพภาคที่ 4 จะมาช่วยรื้อหลังคาและโครงสร้างศาลาการเปรียญนำกระเบื้อง วัสดุอุปกรณ์ที่ยังใช้การได้ไปใช้ในการก่อสร้างศาลาบริเวณโครงการ “โคกหนองนา”วัดเขาพระทอง เมื่อเหลือเฉพาะผนังปูน เสาปูน ซึ่งเสทื่อมสภาพเต็มทีแล้วก็จะใช้เครื่องจักรกลรื้อทุบบดอัดปรับพื้นที่และเริ่มในการวางผังก่อสร้างโบสถ์ได้ไม่เกินวันที่ 15 ส.ค. 2564 และจะดำเนินการก่อสร้างไปเรื่อย ๆ ตามลำดับต่อไป
สำหรับการระดมทุนกองทุนเสบียงบุญสร้างโบสถ์วัดเพระทอง โดยมีคู่แฝดดารานักบุญ “บิณฑ์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์” และทีมงานจากทิศทั้ง 4 คอยช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง จนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ ซึ่งพุทธศาสนิกชนสามารถบริจาคร่วมสมทบกองทุนเสบียงบุญสร้างโบสถ์วัดเพระทอง ทุนสร้างได้ทีบัญชีธนาคารกรุงไทยชื่อบัญชี “กองทุน เสบียงบุญสร้างโบสถ์” วัดเขาพระทอง เลขบัญชี 822-0-63803-6 ติดต่อสอบถามได้ที่ พระมหาอารยนันต์ อานันโท รักษาการเจ้าอาวาส โทร 094-795-2998.
ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช