นายแพทย์ สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงเรื่องการรักษาคนไข้โควิด 19 ด้วยยา ivermectin (ไอเวอร์เม็กติน) ว่า ที่ผ่านมาได้สอบถามผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยตลอด ซึ่งมีการประเมินสถานการณ์ทุก ๆ เดือน ต่อมา มีการอ้างอิงว่า ยาไอเวอร์เม็กติน สามารถรักษาโควิด 19 ได้ ซึ่งแท้จริงแล้ว ยาไอเวอร์เม็กติน ใช้ฆ่าพยาธิในสัตว์ แต่มีการนำมาทดลองใช้ ในเชื้อโควิด-19 ซึ่งอยู่ในหลอดทดลองปรากฏว่า ยาไอเวอร์เม็กติน สามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโควิด 19 ในหลอดทดลองได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า หากทดลองในคนจะประสบความสำเร็จ
จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า ยาไอเวอร์เม็กติน อาจจะลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ได้ จึงนำยาดังกล่าวมาเป็นตัวเลือกในการรักษาผู้ป่วย ซึ่งหากใช้ในปริมาณมาก ผู้ป่วยอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับตับได้ และย้ำว่าการใช้ยาจะต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์เท่านั้น ซึ่งประเทศไทยก็ได้มีการนำข้อมูลดังกล่าวมาศึกษาทดลอง และเปรียบเทียบกับ ยาฟาวิพิราเวียร์ รวมทั้งปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญหลายๆฝ่าย ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาและวิจัยอาจจะทราบผล ประมาณ 3 – 4 เดือน
ส่วนในกรณีที่ ประเทศไทย เริ่มมีการใช้ยาไอเวอร์เม็กติน หรือไม่นั้น เบื้องต้นสันนิษฐานว่า อาจจะมีแพทย์บางคนใช้รักษาคนไข้ แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลที่ระบุแน่ชัดเท่าที่ควร ซึ่งสำหรับผู้ที่จะใช้ยาดังกล่าวได้ จะมีหมายเหตุไว้ข้างกล่องว่า ยาชนิดนี้จะต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์เท่านั้น ซึ่งทางแพทย์ขอใช้คำว่าไม่ได้แนะนำให้ใช้ หรือ ไม่ใช้ แต่ขอให้อิงตามคำแนะนำหลักจะดีกว่า อีกทั้งกรณีที่ แพทย์ สั่งจ่าย ยาไอเวอร์เม็กติน จะต้องรายงานมาที่กรมการแพทย์หรือไม่นั้น เบื้องต้นยังไม่มีข้อกำหนด แต่ถ้าหากมีการรายงาน หรือ ช่วยกันแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ดี
ส่วน กรณียาไอเวอร์เม็กติน และฟ้าทะลายโจร ต่างกันอย่างไรนั้น นายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวว่า ยาไอเวอร์เม็กติน นั้น ใช้ฆ่าพยาธิในสัตว์ ส่วน ฟ้าทะลายโจร มีสรรพคุณรักษา ทำให้ร่างกายแข็งแรง เห็นได้ชัดว่า ยาทั้ง 2 ชนิด ไม่เหมือนกัน จะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ ยาไอเวอร์เม็กติน คืออะไรนั้น เป็นยาชนิดหนึ่ง ที่ใช้ในการฆ่าพยาธิในสัตว์ ซึ่งมีหลาย ๆ ประเทศ ใช้แล้ว เนื่องจาก ประเทศเหล่านั้น ไม่มี ยาฟาวิพิราเวียร์ หรือ ยาแอนตี้ไวรัส ขณะเดียวกัน หลาย ๆ ประเทศ ก็มีการศึกษายาไอเวอร์เม็กติน ปรากฏว่า บางประเทศ ก็ว่าดี แต่บางประเทศ ใช้กับผู้ป่วยแล้ว มีอาการแย่ลง
