วันที่ 29 มิ.ย.-ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่มี ส.ว.เตรียมยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยตีความร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมร่างที่ 13 ในมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่า เป็นเรื่องที่แต่ละบุคคลจะดำเนินการไป แต่สำหรับตนและพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าร่างที่รับหลักการไปสามารถเดินหน้าไปได้ตามขั้นตอนกระบวนการปกติ ตามข้อบังคับของรัฐสภาได้ ซึ่งอยากจะให้ช่วยกันที่ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้
“อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ควรไปตั้งแง่ ว่าเป็นร่างของพรรคไหน เป็นร่างของใคร เพราะว่าสุดท้ายก็คือความร่วมมือร่วมใจของ ทั้ง ส.ส.รัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน และสมาชิกวุฒิสภา ถ้า 3 ฝ่ายไม่ร่วมใจกัน โอกาสจะประสบความสำเร็จก็ยาก แต่เชื่อว่าทุกฝ่ายก็อยากเห็นประเทศเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น เพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าไปได้ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจสังคม ได้อย่างยั่งยืน นั่นก็คือการที่จะเดินหน้าไปสู่วิถีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นสิ่งที่เรากำลังเดินอยู่ขั้นตอนกระบวนการของการแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่ผ่านไป”นายจุรินทร์กล่าว
นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า สำหรับการเขียนหลักการเป็นเรื่องของการเขียนกว้างๆ ว่ามีหลักการที่จะต้องแก้เรื่องอะไรด้วยเหตุผลอะไร เมื่อเข้าสู่ขั้นการรับหลักการเสร็จสิ้นแล้วไปสู่วาระที่สอง ก็เป็นหน้าที่ของกรรมาธิการและสมาชิกรัฐสภาต้องไปปรับปรุงแก้ไขมาตราอื่นๆ ที่ยังขัดแย้งอยู่กับหลักการที่รับไปให้สอดคล้องกับหลักการได้ ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อบังคับ ก็ไม่คิดว่าจะมีอุปสรรคอะไรในการที่จะเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งขณะนี้มีผู้เริ่มยื่นเรื่องขอแปรญัตติเข้าไปที่กรรมาธิการแล้ว