No data was found

ภูเก็ตฉีดวัคซีนเกิน 60% ของประชากรแล้ว

กดติดตาม TOP NEWS

ภูเก็ตฉีดวัคซีนเกิน 60% ของประชากรแล้ว

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แสดงความชื่นชมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต ที่ดำเนินการตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการให้บริการวัคซีนโควิด-19 เกิน 60% ของประชากรในพื้นที่ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตมีจำนวนประชากรประมาณ 547,584 คน และมีเป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน จำนวน 383,308 คน หรือ 70% ของประชากรในพื้นที่ แผนการฉีดวัคซีนจะต้องฉีดเข็มที่ 1 ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน และฉีดเข็มที่ 2 ให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม โดยข้อมูลการฉีดวัคซีน ณ วันที่ 16 มิถุนายน มีผู้ที่ได้รับวัคซีน 1 เข็ม จำนวน 346,855 คน หรือ 63.3% ผู้ที่ได้รับวัคซีน 2 เข็ม จำนวน 165,439 คน หรือ 30.2% และที่ยังไม่ได้รับวัคซีน เหลือเพียงจำนวน 119,732 คน

ส่วนการจัดเตรียมระบบความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวของภูเก็ต Phuket Sandbox ถือว่าเป็นแบบอย่างความร่วมมือที่มีการเตรียมความพร้อมอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ก่อนการเดินทางเข้าประเทศ การเข้าพัก การท่องเที่ยวและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ จนถึงการเดินทางออกจากจังหวัด เพื่อเป็นต้นแบบให้จังหวัดท่องเที่ยวอื่น ๆ ต่อไป ขณะที่การเฝ้าระวังติดตามจำนวนผู้ป่วยในจังหวัดภูเก็ต หากพบพบผู้ป่วยเกิน 13 รายต่อวัน อาจจะต้องพิจารณายกเลิกแผนการดำเนินงาน Phuket Sandbox

สำหรับแนวทางการดำเนินงาน Phuket Sandbox ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นี้ มีเกณฑ์พิจารณา ดังนี้

1.ชาวต่างชาติต้องได้รับวัคซีนครบโดส อย่างน้อย 14 วันก่อนการเดินทาง และมีเอกสารรับรองการได้รับวัคซีน

2.ต้องเป็นผู้เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงต่ำ กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ต้องมากับผู้ปกครองที่ได้รับวัคซีนแล้ว

3.ต้องมีเอกสารการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ผลไม่พบเชื้อไม่เกิน 72 ชั่วโมง และต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้ออีก 3 ครั้งในประเทศไทย ได้แก่วันที่เดินทางมาถึง วันที่ 7 และ 14 โดยโรงพยาบาลคู่สัญญา

4.ต้องเดินทางถึงที่พักด้วยรถโรงแรมและรับการตรวจเชื้อ ไม่อนุญาตให้ออกนอกห้องจนกว่าผลการตรวจไม่พบเชื้อ จึงจะอนุญาตให้ท่องเที่ยวภายในจังหวัดภูเก็ตได้ เมื่อครบ 14 วัน จึงจะสามารถเดินทางไปเที่ยวต่อยังจังหวัดอื่น ๆ ได้

โดยแนวทางดังกล่าวถือเป็นต้นแบบการส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคม และเป็นไปตามเกณฑ์ที่คณะกรรมการวิชาการของกระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอ ศบค. เห็นชอบ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ทนายอนันต์ชัย” ฟาดเดือดลัทธิ “เชื่อมจิต” บิดเบือนไร้ยางอาย
ผู้คนยังแห่เจิมเปิดดวงเศรษฐีและส่องเลขอ่างน้ำมนต์อาศรมฤาษีเณร สาวดวงเฮงถวายเงินทำบุญหนึ่งแสนหลังรับโชคกว่าล้าน
เดินหน้าต่อเนื่อง "ท็อปนิวส์" มอบของบริจาค ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเมียนมา ส่งตรงถึงมือที่อุ้มผาง แล้ว
เขื่อนแตกในเคนยา น้ำทะลักซัดดับ 45
แมวทรหด เจ้าของหาแทบตาย ที่แท้ติดไปกับพัสดุพันกว่ากิโลฯ
KFC มาเลเซีย ปิดชั่วคราวกว่า 100 สาขา เซ่นบอยคอตอเมริกา
อัยการสั่งฟ้อง "รุ้ง-บี๋" ผิดม.112 เป็นแอดมินเพจ "แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ" โพสต์หมิ่น ใส่ร้าย สถาบันฯ
"ผู้พิการสายตา" สุดทน แฉสมาคมฯส่อตุกติกโควต้าสลากฯ โอดทุกข์หนักแบกต้นทุน บากหน้าซื้อยี่ปั๊วราคาโหด
นายกโต้ง รับฟังดราม่าเสาไฟฟ้าบังองค์พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ จุดที่มองเห็นองค์พระสวยงามที่สุด
กิ้งกืออพยพในไต้หวันหวั่นลางบอกเหตุ ผู้เชี่ยวชาญชี้เรื่องธรรมชาติ (คลิป)

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น