เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน ชาวสวนในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรีได้รับผลกระจากฤทธิ์ของพายุ คมปาซุ ทำให้มีปริมาณน้ำฝนตกสะสมเป็นเวลาหลายชั่วโมง น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต่ำ รวมถึงพื้นที่เกษตรกรรมสวนผลไม้ในหลายอำเภอ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ของอำเภอขลุงได้รับผลกระทบหนักเช่นตำบลวังสรรพรส ตำบลตกพรม ตำบลบ่อเวฬุ โดยขณะนี้ทางอำเภอ ผู้นำชุมชน ได้ออกสำรวจ ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ให้อยู่ในที่ปลอดภัย พร้อมกับนำข้าวกล่องแล้วน้ำดื่มไปแจกชาวบ้านเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
นายอุบล รัตตะรมย์ ชาวสวนผลไม้ในพื้นที่ตำบลวังสรรพรส ได้กล่าวว่าน้ำป่ามาช่วงกลางดึกที่ผ่านมาจนกระทั่งถึงเวลา 14.00 น.น้ำยังมีปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากเดินไปถึงท้ายสวนน้ำลึกถึงขนาดมิดหัว โดยปริมาณน้ำชุดนี้มีจำนวนมากจากปริมาณน้ำฝนที่ไหลลงมาจากเขาประกอบกับน้ำทะเลหนุน ส่วนสวนทุเรียนที่ถูกน้ำท่วมนั้นหากไม่เกิน 3 วันก็ไม่มีผลกระทบแต่ในรอบนี้คาดว่าจะเกิน 5 วัน ภายหลังน้ำลดก็จะต้องตรวจดูความเสียหายของต้นทุเรียนและบำรุงรักษาต่อไป
ทางด้าน นายพสวัตน์ โชติวัตพงษ์ชัยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วได้กล่าวว่า ในช่วงนี้จะมีปริมาณน้ำฝนตกสะสมบนพื้นที่เขาและอุทยานจำนวนมากเนื่องจากฤทธิ์ของพายุ คมปาซุ อาจเกิดมีน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มจึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นเสี่ยงให้เตรียมความพร้อมและระมัดระวังเป็นพิเศษ และในช่วงนี้ทางอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ได้เปิดบริการตามปกติแล้วแต่ถ้าหากช่วงฝนตกหนักน้ำเปลี่ยนสีก็จะห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำแต่สามารถขึ้นมาเที่ยวชมบรรยากาศความสวยงามของอุทยานแห่งชาติน้ำตกผิวได้ทุกวัน
สมเศียร โชติสนิท ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ประจำจังหวัดจันทบุรี