วันที่ 7 ต.ค. 2564 คณะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะเดินทางไปยังจุดยูเทิร์นถนนพุทธภูมิ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อติดตามดูการบริหารจัดการน้ำและปลูกดต้นพระศรีมหาโพธิ์ในกระดางประติมากรรมซึ่งเป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี รศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.พปชร.เขต 1 จ.นครศรีธรรมราช พร้อมคณะรัฐมนตรีและ ส.ส.พปชร.ภาคใต้ นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมือง พร้อมหัวหน้าส่วนราชการทั้งในระดับวส่วนกลางและในจังหวัดร่วมต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง
หลังจากรับฟังการบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของอำเภอเมืองจากนายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมือง แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบทมุนการศึกษาให้กับนักเรียนในพื้นที่จากนั้นนายกรัมนตรีและคณะได้ร่วมปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในกระถางประติมากรรมซิเมนต์ขนาดขนาด 99 X 99 เซนติเมตร ซึ่งจัดเตรียมและดำเนินการโดยเหล่าศิลปินด้านประติมากรรมในจังหวัดนครศรีธรรมราช และวิทยาลัยศิลปหัตถกรรมนครศรีธรรมราช ภายใต้การควบคุมโดยมีนายประสิทธิ์ สุวรรณา ผู้อำนวยการวิทยาลัยศิลปหัตถกรรมนครศรีธรรมราชโดยแนวคิดการออกแบบกระภถางประติมากรรมพระศรีมหาโพธิ์ มีแนวคิดจากส่วนหนึ่งขององค์พระบรมธาตุ ประกอบด้วย บัลลังก์ เสาหานและพระเวียน มาปรับแบบให้เหมาะสมกับกระถางโพธิ์พุทธภูมิ เพื่อความสิริมงคล ฐานของกระถางเป็นสี่เหลี่ยมเพื่อเน้นความมั่นคง แข็งแรง มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของนครศรีธรรมราช “ ส่วนของกระถางประดับใบโพธิ์ แปดทิศ อันหมายถึง มรรคแปด คือ ทางแห่งการพ้นทุกข์ ส่วนล่างของกระถางประดับด้วยกลีบบัวจาวตาลประยุกต์ สีที่ใช้เป็นสีม่วงอ่อนกับสีเหลืองทองของใบโพธิ์ ซึ่งเป็นสีประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งกระถางโพธิ์พุทธภูมิ จัดสร้างโดยวิทยาลัยฯ ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่องานนี้ เพื่อต้องการสื่อถึงความเป็นเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้กระถางโพธิ์พุทธิภูมิ จำนวน 3 ใบ เตรียมให้นายกรัฐมนตรีและคณะปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ นอกจากนี้ยังกำหนดติดตั้งกระถางโพธิ์พุทธภูมิ ที่บริเวณถนนพุทธภูมิ พร้อมปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ให้ครบจำนวน 99 กระถางถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรม เนื่องจากถนนพุทธภูถนนที่เชื่อมต่อวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารนครศรีธรรมราชที่อยู่ระหว่างการเสนอ ครม.พิจารณา เพื่อยื่นต่อยูเนสโกขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวบ้านที่มาคอยต้อนรับนายกฯ และติดตามข่าวไม่พลาดที่จะจดเลขป้ายทะเบียนรถที่นายกฯ นั่ง เป็นรถยนต์ยี่ห้ออัลพาร์ต สีดำ ทะเบียน กอ – 5817 นครศรีธรรมราช เพื่อหวังนำไปเสี่ยงโชคแทงหวยงวดวันที่ 16 ต.ค.นี้ ในขณะที่บรรดา พ่อค้าแม่ค้าขายเร่สลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่พลาดที่จะนำแผงสลากฯ มาขายให้กับลุกค้าที่มารอต้อนรับนายกฯ ถึงหน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร แต่ปรากฏว่าเลขท้ายสลาก 817 หมดเกลี้ยงแผง ก่อนที่นากยกฯ จะเดินทางมาถึงนครศรีธรรมราช เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการแชร์ภาพป้ายทะเบียนรถที่นายกฯ นั่งมาจากท่าอากาศยาน รวมทั้งเลขเครื่องบิน 1124 ลำที่นายกรัฐมนตรีนั่งมาด้วย ทำให้บรรดาคอหวยต้องหาซื้อเลขสลับตำแหน่งของทะเบียนรถ เพื่อเสี่ยงโชค และคาดวังว่าจะได้รับโชคเหมือนทุกครั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาตรวจเยี่ยมพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะรัฐมนตรี และ ส.ส.ในพื้นที่ ตรวจเยี่ยมศูนย์ดิจิทัลชุมชน ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายกฯ กล่าวกับชาวบ้านช่วงหนึ่ง ว่า วันนี้รู้สึกยินดีตั้งแต่ช่วงเช้า ที่ได้รับการต้อนรับอย่างดี ด้วยบรรยากาศแบบมิตรไมตรี วันนี้รัฐบาลจะบริหาร แบบ G-Government ที่ต้องตรงจุดและรวดเร็ว ช่วยเหลือประชาชนด้วยการดูแลคนทุกกลุ่ม ส่วนเรื่องอุทกภัยน้ำท่วมรัฐบาลดูแลมาตลอด ทำโครงการบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศ”ผมยืนยันว่าเราคงไม่เจอปัญหาเดียวกับปี 54 เพราะเราลดมาได้ทุกปี พื้นที่น้ำท่วมก็ลดลง ค่าเยียวยาก็ลดลง ระยะเวลาในการท่วมก็น้อยลง ความเสียหายก็ลดลงไง แต่ที่นี้มันยังไม่ 100% หรอก เพราะสิ่งสำคัญก็คือปริมาณน้ำฝนที่ตก ผมจึงบอกไปเมื่อเช้าว่าท่านต้องมีแผนเตรียมการของท่าน ไว้ในใจ ไว้ในบ้าน บ้านตัวเองต้องรู้ว่าน้ำมาจากไหน เพื่อเตรียมการตั้งรับได้ถูก” นายกฯ กล่าว
นายกฯ ยังกล่าวว่าวันนี้โลกกำลังเปลี่ยนไปเป็นเทคโนโลยี พวกเราต้องปรับทั้งหมด ต้องพลิกโฉมประเทศไทยจากรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง ส่วน จ.นครศรีธรรมราช มีศักยภาพมากมาย ต้องหาให้เจอ โลกหลังโควิด-19 ไม่ใช่โลกใบเดิมอีกต่อไป ดังนั้นต้องก้าวให้ทัน สิ่งสำคัญคือความรักสามัคคี และรู้ดีว่าทุกคนเชื่อมั่นตนเอง และเชื่อมั่นคนในพื้นที่ “วันนี้ พูดเยอะแล้ว เวลาอยู่กรุงเทพฯ นายกฯ ก็พูดถึงทุกวัน ก็นึกถึงคนใต้ตลอดเลยนะ ผมไม่รู้ฟังผมบ้างรึเปล่า วันนี้นำหัวใจ นำความห่วงใย นำความคิดถึงของคนกรุงเทพฯ มาด้วย ของรัฐบาลมาด้วย รัฐบาลรักทุกคน ทุกคนที่ทำให้ชาติ บ้านเมืองเราปลอดภัย ช่วยกันรักษา สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง นึกอะไรไม่ออก ตอนเช้าลองฟังเพลงชาติให้ชัดๆ อีกทีสิ ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ความหมายของเพลงชาติคืออะไร เริ่มตั้งแต่วรรคแรกประโยคแรกของเพลงชาติ เพลงที่ 2 คือเพลงสามัคคีชุมนุม ผมขอ 2 เพลงเท่านั้นแหละ จะทำให้เรารู้ว่า เราเป็นคนไทย เรารวมกันมาจากไหน เราเป็นชาติมาได้ยังไง ถ้าเราไม่รู้จักประวัติศาสตร์ ว่าเราเป็นใครมาจากไหน เราก็จะไม่รู้ว่าเราจะรักประเทศชาติ จังหวัด เพื่อนพี่น้องของเราได้อย่างไร เพราะเราเป็นคนชาติเดียวกัน ใครก็มาแบ่งแยกไม่ได้” นายกฯ กล่าว พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเพียงเท่านี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้รัฐบาลทำงาน เชื่อว่าใน 5 ปีข้างหน้าทุกอย่างจะดีขึ้น จากสิ่งที่รัฐบาลสร้างโครงสร้างไว้ จากนั้นนายกฯ ได้นำคณะไปเยี่ยมศูนย์ดิจิทัลชุมชน เยี่ยมชมนิทรรศการของชาวบ้านในพื้นที่ และช่วยซื้อผลิตภัณฑ์ของชาวบ้าน โดยกล่าวช่วงหนึ่งว่า “ประเทศไทยเป็นรูปขวานทอง ที่เราจะต้องฟันฝ่าไปข้างหน้า”
ในขณะที่เวลา 16.10 น. นายกฯ พร้อมชาวบ้าน และข้าราชการในพื้นที่ ยังได้นำมือมาวางไว้ที่อก และร่วมร้องเพลงชาติไทย พร้อมกล่าวว่า “ประเทศไทยของเราจงเจริญ” จากนั้น นายกฯ ได้ไปกล่าวลากับชาวบ้าน โดยทำมือสัญลักษณ์ ไอเลิฟยู ย้ำทิ้งท้ายอีกครั้งว่า “รักทุกคน แล้วเจอกันใหม่ เจอกันในที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีน้ำท่วม ไม่มีอะไรต่างๆ เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น ฝากดูแล (หัวใจ) อีกครั้งนะจ๊ะขอบคุณประชาชนอีกครั้ง ทุกคนต้องช่วยกันฝ่าวิกฤติไปให้ได้ ไม่ว่า ความยากจน ฝนแล้ง น้ำท่วม เศรษฐกิจ โควิด นายกฯ เจอทุกเรื่องเลยนะ ฟังนายกฯ จะแก้ปัญหาอย่างไร มันอาจจะแก้ไม่ได้ 100% แต่มันค่อยๆ แก้ จะแก้ให้มากที่สุด เชื่อมั่น ร่วมมือร่วมใจ ด้วยความรักสามัคคี เหมือนที่เพลงชาติกล่าวเมื่อสักครู่” โดยนายกฯ ได้แจกลายเซ็นชาวบ้าน และพาคณะเดินทางกลับกรุงเทพมหานครทันที.
ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช
