No data was found

เหมือนเกิดใหม่!คำบอกเล่าของผู้ป่วยโควิด อาการรุนแรงระดับวิกฤต จนในวันที่ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจ

กดติดตาม TOP NEWS

ในเพจ โรงพยาบาลนครพิงค์ โพสต์ข้อความระบุว่า เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ จากใจผู้ป่วยโควิด

คือคำบอกเล่าของผู้ป่วยโควิด ที่มีอาการรุนแรงระดับวิกฤต ที่เคยต้องพึ่งพาเครื่องช่วยหายใจมานานหลายวัน จนในวันที่ได้ถอดพันธนาการจากเครื่องพยุงชีวิตต่างๆเหล่านั้น และแข็งแรงพอที่จะบอกเล่าความรู้สึกกับเราได้

ผู้ป่วยคนแรก เป็นหญิงวัย 58 ปี ส่งตัวจากรพ.ชุมชนมารักษาที่รพ.นครพิงค์ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน บอกกับเราด้วยเสียงที่ยังแหบ เนื่องจากใส่ท่อช่วยหายใจอยู่นาน 6 วัน” ขอบคุณนักๆเจ้า ตี้จ้วยฮื้อป้ารอดชีวิต ขอบคุณหมอพยาบาล อยากบอกกู้คนว่า กินร้อนช้อนกลาง ใส่หน้ากากนะเจ้า” คุณป้าไม่ลืมที่จะเป็นห่วงคนอื่นๆ

ผู้ป่วยคนที่ 2 เป็นชายวัย 44 ปี ส่งตัวจากรพ.สนามมารักษาที่รพ.นครพิงค์ ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน ได้ใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ 6 วัน อาการค่อยๆทุเลาลง จนถอดท่อช่วยหายใจได้แล้ว ได้บอกกับเราว่า “อาการผมดีขึ้นมาก เหนื่อยนิดเดียวแล้ว ขอบคุณหมอ พยาบาลครับที่ช่วยผมผ่านวิกฤตมาได้ ” ผู้ป่วยทั้ง 2 รายนี้ ได้รักษาตัวในรพ.นครพิงค์ 8 และ 16 วันตามลำดับ จากที่เคยมีอาการระดับวิกฤต (สีแดง) จนในวันนี้อาการลดระดับลงมาเหลือเพียงปานกลาง (สีเหลือง) จึงได้ส่งตัวไปพักฟื้นต่อที่รพ.ชุมชน เพื่อให้รพ.นครพิงค์มีพื้นที่สำหรับดูแลผู้ป่วยที่มีอาการหนักกว่าต่อไป

จากแผนยุทธศาสตร์ของจ.เชียงใหม่ ที่ให้รพ.นครพิงค์เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลผู้ป่วยหนักร่วมกับรพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ทำให้หน้าที่หลักของเราคือการพาคนไข้ให้พ้นวิกฤต ซึ่งที่ผ่านมาจนถึงวันนี้(30เมษายน) รพ.นครพิงค์ได้ให้การดูแลผู้ป่วยโควิดระลอกเดือนเม.ย.ไปทั้งสิ้น 168 ราย รักษาจนอาการทุเลาสามารถย้ายไปรพ.สนาม หรือ รพ.ชุมชนได้แล้ว 125 ราย ยังอยู่ในรพ.41 ราย และเสียชีวิต 2 ราย (ข้อมูลในภาพเป็นข้อมูลรวมผู้ป่วยของการระบาดทั้ง 3 รอบ)

ด้วยการที่รพ.นครพิงค์ต้องดูแลกลุ่มผู้ป่วยหนักเป็นหลัก เราจึงไม่มีโอกาสได้ดูแลผู้ป่วยจนถึงวันที่ได้กลับบ้าน เพราะหน้าที่ของเราคือการพาผู้ป่วยให้พ้นวิกฤต เพื่อส่งต่อให้เพื่อนนักรบชุดขาวจากรพ.อื่นๆได้ดูแลผู้ป่วยต่อจนได้กลับบ้านต่อไป แม้ว่าเราอาจจะไม่สามารถพาทุกคนให้ผ่านวิกฤตไปได้ทั้งหมด แต่เราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"รัฐบาล" ฝ่าแรงเสียดทานทำประชามติ "แก้รธน." แจกเงินดิจิทัล สกัด"กองทัพ"ทำรัฐประหาร
“จุลพันธ์” ย้ำไม่เห็นความเป็นห่วง "ดิจิทัลวอลเล็ต" พร้อมแจ้งบอร์ดธกส.เดินหน้าตามมติครม.
"เต้ มงคลกิตติ์" ดอดซบปชป.แล้ว เข้ากราบ "ชวน หลีกภัย" ยอมรับสาเหตุร่วมเป็นสมาชิกพรรค
ศาลอาญาเพิกถอนหมายจับ “สนธิญา” คดีหมิ่น “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์” นัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง 27 พ.ค.นี้
สศร.เตรียมมอบธง "Thailand Biennale ภูเก็ต ครั้งที่ 4" เปิดผลสำเร็จเบียนนาเล่เชียงราย  เงินสะพัด 2.4 หมื่นล้าน - จ้างงาน 8 พันอัตรา
"สุชาติ" เข้าทำเนียบ ดอดขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าพบนายกฯ หลังมีชื่อเสียบนั่งรมต.
"รัฐบาล" ห่วงประชาชน แนะดูแสุขภาพ ช่วงอากาศร้อนจัด "กลุ่มเสี่ยง" เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง
วธ.ปลื้มประชาชนแห่ร่วมงานวันสุดท้าย "ใต้ร่มพระบารมี 242 ปี กรุงรัตนโกสินทร์" ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กระตุ้นเศรษฐกิจชาติ
Top News เดินหน้าชำแหละซ้ำ ปัญหาสลากฯแพง ผู้พิการร้องเข้าไม่ถึงโควต้าโดนสมาคมฯปิดกั้น "นอท" โผล่ขายเย้ยกม.
"ผบก.น.2" ยันไม่มี 2 มาตรฐาน ชี้พบเส้นเงิน 32 เส้นเชื่อมโยงเว็บพนัน BNK จ่อเรียกสอบ "บิ๊กต่อ"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น