มีรายงานข่าวว่า สัปดาห์หน้าพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นัดประชุมร่วมกับพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ เพื่อพิจารณากรอบการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2564 โดยเฉพาะตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่จะเกษียณอายุราชการในปลายเดือนกันยายนนี้ โดยเฉพาะการแลกโควตาระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพ
ที่น่าสนใจคือการพิจารณาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ระหว่าง พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย รองปลัดกระทรวงกลาโหมที่อาวุโสสูงสุด กับพล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ เสนาธิการทหารบก ที่ถูกดันออกมาจากกองทัพบก คาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ จะหารือให้ได้ข้อยุติ เพื่อเดินหน้าไปสู่การจัดโผในระดับรองลงไป ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ จะได้ข้ามกลับไปเป็น ผู้บัญชาการทหารเรือ ขัดตาทัพ 1 ปี ส่งผลให้พล.อ.วรเกียรติ ได้ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อแก้ปัญหาโผไม่ลงตัว ส่วนพล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ เสนาธิการทหารเรือ ขยับขึ้นเป็นรอง ผบ.ทร. และ พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผบ.กองเรือยุทธการ เป็นผู้ช่วยผบ.ทร. และพล.ร.อ.ทรงวุฒิ บุญอินทร์ ผู้ช่วยผบ.ทร. เป็นประธานที่ปรึกษากองทัพเรือ รวมไปถึงการหาข้อยุติในตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ซึ่งมีแคนดิแดตถึง 3 คน ประกอบด้วย พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา เสนาธิการทหารอากาศ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ประธานที่ปรึกษาทอ. และพล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์ วัฒนวรางกูร ผู้บัญชาการกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ (ผบ.คปอ.)
นอกจากนั้นจะมีการหารือเรื่องการบริหารงบประมาณของกองทัพในช่วงสถานการณ์โควิด-19 หลังจากมีการปรับลด และเตรียมข้อมูลชี้แจงในชั้นคณะกรรมาธิการ โดยเฉพาะโครงการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่จำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณผูกพันตามสัญญา รวมถึงภาพรวมความร่วมมือของกองทัพในการสนับสนุนรัฐบาลแก้ไขปัญหาแพร่ระบาดของโควิด-19