เมื่อวันที่ 21 พ.ค.- ที่ทำเนียบรัฐบาลนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ว่า ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ เห็นชอบ ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. – 31 ก.ค. 2564 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว และทันต่อสถานการณ์ ทั้งนี้พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไม่ลดลง โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดมีแนวโน้มคงตัว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมศบค.เห็นชอบการจัดการประชุมรัฐสภาสมัยสามัญครั้งที่ 1 ประจำปี 2564 โดยเห็นชอบให้มีป้องกันโรคและให้สวมหน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยตลอดการประชุม ยกเว้นผู้ควบคุมการประชุมผ่อนผันให้ในช่วงเวลาการอภิปราย หรือแสดงความคิดเห็น และการนั่งในห้องประชุมให้เว้นระยะห่าง 2 เมตรและให้ส.ส.และส.ว.มีผู้ติดตามได้ 1 คนเท่านั้น และให้ตำรวจสภากำกับการใช้ลิฟท์ไม่เกินครั้งละ 6 คน จัดอาหารให้สมาชิกเฉพาะบุคคล งดการรับประทานอาหารร่วมกัน รวมถึงงดการประชุมกรรมาธิการทุกคณะทั้งสามัญ วิสามัญและอนุกรรมมาธิการการ จนกว่าจะมีการกำหนดเป็นอย่างอื่น และขอความร่วมมือข้าราชการรัฐสภาฉีดวัคซีนทุกคน 100 เปอร์เซ็นต์ หากผู้ใดไม่ฉีดวัคซีนไม่อนุญาตให้เข้าห้องประชุม เว้นแต่มีเหตุจำเป็น อย่างไรก็ตาม ใหกระทรวงสาธารณสุขจัดสรรวัคซีนจำนวน 2,000 โดส ฉีดช่วงวันที่ 21-25 พ.ค.นี้
