พลตรี วาดิม สกิบิตสกี้ รองผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครน ให้สัมภาษณ์ ดิ อีโคโนมิสต์ นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ของอังกฤษ ว่า ต่อให้ยูเครนสามารถผลักดันกองกำลังรัสเซีย ถอยร่นกลับไปถึงชายแดน ซึ่งจริงๆเป็นไปได้ยาก ก็จะไม่ได้หมายถึงการยุติสงคราม การปิดฉากความขัดแย้งแบบที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซียกับยูเครน มีแต่การลงนามสนธิสัญญาสันติภาพเท่านั้น แต่ ณ ขณะนี้ คู่สงครามกำลังพยายามแย่งชิง “สถานะที่เป็นต่อ” ให้มากที่สุด ก่อนนั่งโต๊ะเจรจาที่เขาคาดว่าอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ก่อนเสริมว่า สถานการณ์ในแนวหน้าขณะนี้ ยากลำบากอย่างที่ไม่เคยเจอนับจากรัสเซียรุกรานยูเครน และจะเลวร้ายลงอีก
รองหัวหน้าหน่วยข่าวกรองกองทัพยูเครน คาดการณ์แผนการของรัสเซียว่า จะเดินหน้ายึดพื้นที่ภูมิภาคโดเนตสค์ และ ลูฮันสค์ อย่างสมบูรณ์ จากคำสั่งของทำเนียบเครมลินที่สั่งให้กองทัพ “พิชิตบางสิ่งบางอย่าง” ให้ทันก่อนวันแห่งชัยชนะ 9 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันที่รัสเซียรำลึกชัยชนะเหนือนาซีเยอรมัน หรือก่อนที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูิน เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในสัปดาห์ถัดไป
สกิบิตสกี้ กล่าวว่า ปัญหาของยูเครนตอนนี้ ไม่ได้ซับซ้อน คือไม่มีอาวุธ และรัสเซียก็รู้ดีว่า เมษายนและพฤษภาคม จะเป็นช่วงเวลาสุดโหดสำหรับยูเคนน นอกจากนี้ ปัจจุบัน กองทัพรัสเซียยังปฏิบัติการแบบมีแผนการชัดเจน และบัญชาการรวมศูนย์ หรือ ซิงเกิล คอมมานด์ ไม่ได้โกลาหลเหมือนช่วงแรก ๆ เขาประเมินว่า รัสเซียกำลังเตรียมโจมตีเมืองคาร์คิฟ และ ซูมี ทางตะวันออกเฉียงของยูเครน จังหวะเวลาของการจู่โจม ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของแนวป้องกันยูเครนในดอนบาส แต่คาดว่า น่าจะเริ่มราวสิ้นเดือนพฤษภาคม หรือต้นมิถุนายน
ดิ อีโคโนมิสต์ รายงานเพิ่มเติมว่า ปัญหาขาดแคลนอาวุธของกองทัพยูเครน จะยังไม่คลี่คลายในเร็ววัน แม้สหรัฐฯอนุมัติความช่วยเหลือเพิ่มเติม 6 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์ เพราะกว่าที่อาวุธจะส่งไปถึงแนวหน้า จะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ นอกจากนี้ การขาดกำลังพลที่เต็มใจไปรบ ก็เป็นอีกปัจจัยบั่นทอนความสามารถของกองทัพยูเครน