logo

ซัดกันวุ่น “แม่เด็กกับพี่เลี้ยง” ปมเด็ก3ขวบกระเพาะแตก แพทย์เผยรอผลตรวจที่แน่ชัด

ซัดกันวุ่น จนกลายเป็นหนังคนละม้วน แม่เด็ก 3ขวบ เชื่อลูกโดนพี่เลี้ยงทำร้ายร่างกาย แถมกีดกันไม่ให้พาลูกไปดูแล เผยแพทย์ไม่เคยระบุสาเหตุกินจนกระเพาะแตก รอผลตรวจที่แนชัด ก่อนแจ้งดำเนินคดี ด้านพี่เลี้ยงโต้ เลี้ยงดูเหมือนลูกในไส้ ยอมรับมีตีสั่งสอนบ้าง แต่ไม่ถึงทารุณกรรม เชื่อตกจากโถส้วมและกินเยอะมากเกินไปจนกระเพาะแตก ขณะแม่แท้ไม่ค่อยจะใส่ใจดูแล ต้องคอยกระตุ้นตลอด

ซัดกันวุ่น “แม่เด็กกับพี่เลี้ยง” ปมเด็ก3ขวบกระเพาะแตก แพทย์เผยรอผลตรวจที่แน่ชัด – Top News รายงาน

เด็ก3ขวบกระเพาะแตก

คืบหน้า กรณีเมื่อวานที่ผ่านมา (17 พ.ค. 67) น.ส.แสงทอง อายุ 59 ปี และ น.ส.ปนัดดา อายุ 37 ปี ยายและป้า ของ น้องพอร์ช (พีระชัย พากเพียร) วัย 3 ขวบ ผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.บางเขน หลังเชื่อว่า น้องพอร์ชถูก นางสาวนุ่น (สงวนชื่อจริง-นามสกุล) พี่เลี้ยงทำร้ายร่างกายจนกระเพาะแตก

ล่าสุด วันนี้ ( 18 พ.ค.) น.ส.กาญจนาพร แม่ของน้องพอร์ช ได้เปิดเผยอาการล่าสุดของบุตรชายว่า อาการของน้องดีขึ้น แต่ยังมีไข้สูง ซึ่งตอนที่มาถึงโรงพยาบาล หมอแจ้งว่า ตามร่างกายของน้องมีรอยฟกช้ำ เป็นจ้ำๆ , กระเพาะแตก , ตาค้าง , เกือบช็อค ถ้ามาช้ากว่านี้ อาจถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งหมอยังระบุว่า การกินเยอะจนกระเพาะแตกไม่เคยพบ ส่วนมากถ้ากินจนล้นกระเพาะ ก็จะอาเจียนออกมาแทน ทั้งนี้ การตรวจร่างกายต้องรอ นักสังคมสงเคราะห์ มาร่วมตรวจด้วย จึงจะบอกได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ขณะนี้ น้องยังอยู่ในห้อง ICU ร.พ.อ่างทอง

น.ส.กาญจนาพร ยังระบุอีกว่า ตนได้จ้างน.ส.นุ่นให้มาเป็นพี่เลี้ยง เลี้ยงลูกเมื่อช่วงเดือนมกราคมปีนี้ และสังเกตเห็นว่า น้องพอร์ช เริ่มมีรอยฟกช้ำตั้งแต่ก่อนช่วงสงกรานต์ เดือน เม.ย. โดยพี่เลี้ยงอ้างว่า ลูกดื้อ เดินชนโต๊ะ ชนประตู จนเกิดรอยฟกช้ำ ซึ่งตนก็รู้ว่า ลูกค่อนข้างดื้อ จึงไม่ได้เอะใจอะไร แต่หลังจากนั้น ก็ขอรับลูกมานอนด้วย และพาไปเที่ยว แต่ทางพี่เลี้ยงไม่ให้ โดยอ้างว่า กำลังดัดนิสัยลูกอยู่จึงไม่อยากให้ออกไปไหน จนวันเกิดเหตุน.ส.นุ่นอ้างว่า ลูกกินเยอะจนกระเพาะแตก ตนจึงรีบไปที่ รพ. ทันที ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับการติดต่อจาก น.ส.นุ่นเลย มีแต่ป้าของน.ส.นุ่นโทรมาหา พร้อมพูดจาไม่ดีกับตนเรื่องที่ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน โดยปฏิเสธว่าลูกสาวตนไม่ได้ทำ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากความวุกซนของน้องพอร์ชเอง ตนเลยตอบกลับไปว่า ตนไม่ได้กล่าวหาอะไร รอผลตรวจออกมาค่อยว่ากัน ซึ่งตนรู้จักกันน.ส.นุ่นมากกว่า 10 ปี เคยกินอยู่ด้วยกัน และคอยช่วยเหลือกันตลอด จนไว้ใจ และไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับลูกของตนเอง

โดยเมื่อวาน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดต่อพูดคุยและสอบถามข้อท็จจริงทางโทรศัพท์ไปแล้ว โดยในวันจันทร์ ตนจะเอาใบตรวจร่างกายไปให้กับทางเข้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแจ้งดำเนินคดีกับน.ส.นุ่นในข้อหาทำร้ายร่างกาย

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้านพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ได้นัดน.ส.นุ่นมาเข้าพบ เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว เมื่อช่วง 13:00 น. ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 2 ชม. ก่อนที่ น.ส.นุ่นจะออกมาให้สัมภาษณ์พร้อมเผยว่า โดยปกติน้องพอร์ชเป็นคนกินเยอะ กินไม่รู้จักอิ่ม และคนในตลาดก็จะชอบซื้อขนมให้กินตลอด โดยน้องจะกินตั้งแต่ช่วง 18:00 น. ตอนนั้นน้องอยู่กับตนที่ตลาด ตนก็สังเกตว่าน้องนิ่งไป จึงถามว่าเป็นอะไร แต่น้องไม่ยอมพูด เลยจับท้องแล้วท้องแข็ง จึงคิดว่า อาจจะเป็นกรดไหลย้อน แต่น้องยังคงกินได้อยู่ จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 22:00 น. แฟนของตนเลิกงานจึงมารับน้องกลับบ้าน ส่วนตนเองต้องขายของต่อจน 02:00 น. พอกลับถึงที่พัก แฟนโทรกลับมาบอกว่า น้องพอร์ชบอกว่าปวดท้องมาก และร้องเจ็บตลอด แต่ยังบอกว่าไหว ตนจึงให้แฟนจับน้องนั่งชักโครกเพื่ออุจจาระ แต่ไม่ดีขึ้น ก็เลยพาน้องมานั่งพักด้านนอก แต่น้องยังบอกว่าปวดท้อง เลยตัดสินใจให้แฟนเอาน้องไปนั่งชักโครกอีกรอบ ขณะที่แฟนจับน้องนั่งชักโครกแล้ว แฟนก็เดินออกไปกินข้าว และได้ยินเสียงดังตุ๊บ จึงเข้าไปดูในห้องน้ำ พบว่าน้องร่วงจากชักโครก ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 02:00 น. แฟนจึงโทรมาหาตนอีกรอบ บอกว่าจะพาน้องไป รพ. เพราะน้องหน้าซีด ซึ่งตอนนั้นตนกำลังเก็บของอยู่ที่ตลาด และไม่ได้เอะใจอะไรเพราะน้องเคยมีอาการแบบนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ตอนนั้นกินเกลือแร่แล้วอาจียนอาการก็ดีขึ้น แต่ไม่คิดว่ารอบนี้จะเป็นหนักขนาดนี้

น.ส.นุ่น ยังเล่าอีกว่า รอยช้ำที่เกิดขึ้นตามร่างกายเป็นเพราะน้องเล่นซน ซึ่งทุกครั้งที่มีรอยช้ำตนจะแจ้งทางพ่อเด็กตลอด ส่วนเรื่องตี ยอมรับว่า มีการตีน้องพอร์ชบ้าง เวลาดื้อ เพื่อสั่งสอน เพราะบางครั้งน้องทำนิสัยไม่น่ารัก ไปด่าคนที่อายุเยอะกว่า เกรงว่าถ้าไม่ตีซะบ้างวันหน้าคนจะว่าได้ว่าไม่มีใครสั่งสอน แต่ไม่ถึงกับขั้นทำร้ายร่างกายแค่ตีเพื่อสอน

โดยตนเคยรับเลี้ยงน้องพอร์ชรอบแรกตอนน้องพอร์ชอายุ 3 เดือน และแม่น้องก็รับกลับไป และเอากลับมาให้เลี้ยงใหม่ในช่วง ธ.ค 66 เป็นรอบที่ 2 และตนเองไม่เคยกีดกันให้แม่มาพบลูก มีแต่ทักหา ถามว่าทำไมไม่มาหาลูกบ้าง ซึ่งตั้งแต่เดือน ธ.ค. จนเกิดเรื่อง แม่เด็กมาหาเพียง 2 ครั้ง มีแต่พ่อเด็กที่แวะเวียนมาหาบ่อยๆ กระทั่งวันเกิดเหตุเอง ตนโทรหาแม่เด็กตอน 02:00 น.กว่าๆ เพื่อแจ้งอาการของน้อง และเร่งให้รีบมาเซ็นยินยอมในการรักษา เพราะมีแค่แม่เท่านั้นที่เซ็นต์ได้ แต่กลับได้รับคำตอบว่า “ไม่มีรถ จะไปได้ก็ตอนเช้า” แฟนของตนจึงบอกว่าให้นั่งแท็กซี่มาเลย จะออกค่าโดยสารให้ แม่เด็กจึงยอมมา ทั้งนี้ยังมองอีกว่า แม่เด็กปล่อยปละละเลย แม่เด็กเคยขอเอาน้องไปนอนด้วย 1 คืน แต่แม่ของตนมองว่าถ้าเอาน้องไปจะให้น้องกินอะไร ขนาดตัวแม่เด็กเองยังขอเงินแม่ซื้อข้าวอยู่เลย จึงไม่ยอมให้น้องไปเพราะกลัวอด

ตอนนี้แม่เด็กไม่ยอมฟังอะไรตนทั้งนั้น เพราะฟังแต่แฟนใหม่มากกว่า ตอนนี้รู้ว่าน้องย้ายไปที่ รพ.อ่างทองแล้ว อยากไปเยี่ยม แต่ไม่อยากเจอแฟนใหม่ของแม่เด็ก กลัวการมีปากเสียงกัน และยังบอกอีกว่า ถ้าน้องพอร์ช อาการดีขึ้นคงไม่รับเลี้ยงต่อแล้ว เพราะตนเองกำลังจะมีลูก และเข็ดหลาบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เช็กเลย "ขสมก." จัดรถเมล์ฟรี 5 เส้นทาง ชมเห่เรือพระราชพิธี-จุดเทียนถวายพระพร "ในหลวง"
"มอเตอร์เวย์ ฟรี" วันหยุดยาว วันเฉลิมพระชนมพรรษา เช็กจุดที่นี่
ทั่วไทยเจอฝนฟ้าคะนอง 17 จว.อ่วม ฝนถล่ม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน กทม.ก็โดนด้วย
เพจกล้าที่จะก้าว นำเหยื่อ “แชร์ลูกโซ่ธุรกิจออมทอง” เข้าร้องเรียน ดีเอสไอ ภาค 1 หลังโดนโกงสูญเงินนับร้อยล้าน
"บิ๊กอุ้ม" ลุยบุรีรัมย์กับ "กสศ." แก้ปัญหาเด็กหลุดนอกระบบการศึกษา มอบ "สกร." ตามเด็กถึงบ้าน ตั้งเป้าเทอม 2/2567 "บุรีรัมย์เด็กดร็อปเอาต์เป็นศูนย์"
"อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท" ชื่อนี้มีที่มา ลุ้นเป็น "มรดกโลก" แห่งที่ 8 ของประเทศไทย
สถานทูตฯ เตือนคนไทยในฝรั่งเศส ระวังตัว หลังเกิดเหตุวินาศกรรมเผาเส้นทางรถไฟ
จนท.เฝ้าระวัง "น้ำป่า" ไหลหลากผ่ากลางโรงเรียน หวั่นอาคารถล่ม วิกฤติซ้ำซ้อน เด็กนร. โดนไฟช็อต เร่งหามส่งรพ.ด่วน
"อ.อ๊อด" ค้านใช้ไซยาไนด์กำจัด "ปลาหมอคางดำ" หวั่นกระทบสิ่งแวดล้อม
โปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ พระราชาคณะ 5 รูป วัดโพธิ์

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น