ซัด “ก้าวไกล” ปมขึ้นค่าแรงจ้องหาเสียงตีกินการเมือง ชำแหละกึ๋นนโยบายใครทำคนตกงานระนาว

“ก้าวไกล” เดินเกมนอกสภายืมมือ3นิ้วซีกแรงงานขย่ม”รัฐบาล”ปมขึ้นค่าแรงงาน

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ พรรคก้าวไกลเริ่มเดินเกมนอกสภายืมมือแนวร่วมขบวนการ 3 นิ้วซีกแรงงาน นำโดย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยธิปไตยพร้อมเครือข่ายแรงงานกลุ่มหนึ่ง ชงประเด็นให้พรรคก้าวไกลไปอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ระหว่างวันที่ 3 – 4 เมษายนก่อนที่พรรคก้าวไกลจะถูกยุบพรรค โดยอ้างว่าเป็นการอภิปรายเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ประเด็นแรกที่เตรียมขย่มรัฐบาล นั้นคือ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาทด้วยการทวงสัญญา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เคยบอกว่าจะขึ้นในเดือนพฤศจิกายน  2566 แต่นายพิพัฒน์ บอกว่า ทำไม่ได้ ขึ้นได้เพียงวันละ 363 บาทให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ ขณะที่พรรคเพื่อไทยเคยประกาศจะขึ้นค่าแรงวันละ 600 บาท ในปี 2570 ซึ่งเมื่อดูจากตัวเลข 363 บาท หากถึงปี 2570 คงไม่สามารถขึ้นค่าแรงวันละ 600 บาทได้

หากไปดูไส้ในนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของพรรคก้าวไกลก็ขายฝันเช่นกัน จะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทันที 450 บาทต่อวัน โดยกำหนดไว้ในนโยบายเร่งด่วนที่จะทำภายใน 100 วันแรก ถึงได้เป็นรัฐบาลจริงก็ทำไม่ได้ ยิ่งนายสมยศ เสิร์ฟข้อมูลให้พรรคก้าวไกลไปซักฟอกรัฐบาล ล็อคเป้า นายพิพัฒน์ โดยอ้างว่า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ยิ่งเหมือนประจานตัวเองมากกว่า

พรรคภูมิใจไทยกับพรรคก้าวไกลเคยประลองกำลังกันมาแล้ว เรื่อง “ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน” ที่เสนอโดย นางสาววรรณวิภา และ นายเซีย จำปาทอง แกนนำพรรคก้าวไกลซีกแรงงาน ที่นำเสนอแนวทางแบบสุดโต่งมุ่งหาเสียงจากผู้ใช้แรงงานเป็นหลัก โดยไม่คำนึกนึงสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับการจ้างงานในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไป สาระสำคัญกฎหมายแรงงานฉบับ นายเซีย จำปาทอง  เน้น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทุกปี ,  ลดชั่วโมงการทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือ ทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ ปัจจุบันกฎหมายแรงงานสัมพันธ์กำหนดที่ 6 วันต่อสัปดาห์ , เพิ่มวันหยุดพักผ่อนประจำปี 10 วันต่อปีสะสมได้ และ เพิ่มสิทธิลาคลอดเพิ่มจาก 98 วัน จากกฎหมายปัจจุบัน เป็น 180 วัน