No data was found

“บิ๊กเต่า” ลั่นลุยสอบข้อมูลเงิน “บิ๊กตำรวจ” เอี่ยวเว็บพนันเต็มที่ ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง

กดติดตาม TOP NEWS

บิ๊กเต่า ยันไม่เคยเลียตูดนาย ไม่ใช่เด็กใคร เติบโตด้วยตนเอง เดินหน้าตรวจหลักฐานเส้นเงินบัญชีม้าเอี่ยวบิ๊กตำรวจ ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง ด้านทนายตั้ม ยังไม่แจ้งความดำเนินคดีตามมาตตรา 157 และ149 ให้เวลาสืบสวนเต็มที่ เพื่อให้พยานหลักฐานสมบูรณืที่สุดก่อนถึงมือป.ป.ช. พร้อมเตือน ผบ.ตร.คิดดีๆ ใช้ทีมใครฟ้องตนเอง จ่อแฉข้อมูลเพิ่มอีกเสาร์นี้

“บิ๊กเต่า” ลั่นลุยสอบข้อมูลเงิน “บิ๊กตำรวจ” เอี่ยวเว็บพนันเต็มที่ ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง – Top News รายงาน

วันนี้ ( 28 มี.ค.) ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เมื่อเวลา 11.00 น.นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นำข้อมูลขบวนการรับส่วยและเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงไปถึงนายตำรวจระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ามอบให้ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

พลตำรวจตรีจรูญ กล่าวว่า ได้รับอนุญาตจากผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเรียบร้อยแล้ว จากนี้จะส่งพยานหลักฐานที่ได้รับจากทนายตั้มไปให้ บก.ปปป.และตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน รวมถึงตรวจสอบเส้นเงินว่า มีความเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดบ้าง รวมถึงเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำเพื่อลงรายละเอียดในสำนวนการสอบสวน แต่สำนวนนี้จะยังไม่ส่งไปยัง ป.ป.ช.เนื่องจากทนายตั้มยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีในความผิดตามมาตรา 157 และ 149

ยืนยัน ไม่ได้กังวลเรื่อพยานหลักฐาน เพราะเชื่อว่า ทุกอย่างเป็นวิทยาศาสตร์สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งหากมีความเชื่อมโยงไปถึงใครก็จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ถือเป็นเรื่องดีที่ทนายนำข้อมูลมาให้ แม้จะมีข้อมูลจากคดีเก่าอยู่แล้วบางส่วน แต่เป็นโอกาสดีที่จะได้ข้อมูลเพิ่มเติม เพราะตำรวจก็ต้องการกวาดบ้านตัวเอง ใครทำผิดก็ต้องออกไป ย้ำจะตรวจสอบทุกมิติทั้งเส้นทางการเงิน 30 เส้น รวมถึงตัวย่อนายตำรวจต่างๆที่ถูกพาดพิง หากพบใครเกี่ยวข้องจะไม่ละเว้น

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ตนเองเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาสายตรงของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ จะมีผลต่อการตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่นั้น พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยเลียตูดนาย ไม่ได้เป็นเด็กใคร ตามหน้าที่ ไม่ใช่เด็กของ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ตนเองทำงาน และมาถึงจุดนี้ได้ด้วยความสามารถของตนเอง ทำเพื่อส่วนรวมมาโดยตลอด และมีอุดมการณ์ของตนเอง ยืนยันว่า ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนกรณีที่ตำรวจออกหมายเรียกพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ สองครั้งนั้นไม่ขอพูดถึงเรื่องดังกล่าว เพราะไม่อยากให้สร้างประเด็นอื่นๆ และไม่อยากให้ขัดกับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ย้ำกับสื่อมวลชนว่าจะไม่ให้สัมภาษณ์

ด้านทนายตั้ม กล่าวว่า การนำเอกสารหลักฐานเป็นแชท สลิปโอนเงิน และสเตทเม้นท์รวมทั้งเส้นเงิน จากบัญชีม้า เว็บพนันออนไลน์ ของนายคชาชาญไปยังนายณัฐพงษ์ จะมีการโอนต่อไปยังตำรวจหลายนาย รวมถึงอดีต อุปนายกสมาคมนักข่าวแห่งหนึ่ง และมีการโอนไปยังเครือญาติของบิ๊กตำรวจ มามอบให้กับ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ซึ่งวันนี้หลังได้พบและฟังจากปาก แล้วก็มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น จาก 30% เป็น 40 % ซึ่งคงต้องขอรอดูสำนวนการสืบสวนว่า จะมีการตรวจสอบรายละเอียดตามที่ตนได้ร้องขอในวันนี้หรือไม่

ทนายตั้มยังกล่าวต่อไปว่า วันนี้ยืนยันว่า ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีในความผิดตามมาตรา 157 และ 149 เป็นเพียง การนำเอกสารหลักฐานมาให้ตรวจสอบ และทำการสืบสวนสอบสวน โดยไม่ต้องอยู่ในกรอบเวลา 30 วัน ซึ่งถ้าหากเป็นคดีเกี่ยวกับการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ จะต้องส่งสำนวนให้ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น หากพยานหลักฐานไม่แน่นหนา หรือไม่มีการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมกับส่งสำนวนโบ๋ๆไปให้ป.ป.ช. ยืนยันว่าตนเองจะเดินทางมาติดตามความคืบหน้าจนกว่าจะพอใจ ก่อนพิจารณาดำเนินการในลำดับต่อไป ซึ่งเบื้องต้นอยากให้ทางตำรวจตรวจสอบข้อมูลที่นำมาให้ก่อนว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ก่อนขอเอกสารฉบับจริงจากทางธนาคารเพื่อดำเนินคดี ยืนยันว่าไม่มีเจตนาออกมาป่วน

ตอนนี้ยอมรับว่า ข้อมูลดังกล่าว มาจากสายลับที่เป็นตำรวจ ที่ทนกับระบบดังกล่าวไม่ได้ จึงส่งข้อมูลมาให้ตนเอง แต่ข้อมูลที่ได้รับมาไม่มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ แต่หากมีผู้นำข้อมูลที่พบว่า พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ทำผิดกฎหมายตนเองก็จะไม่เกรงใจเช่นกัน และหลังจากนี้ ตนเองจะไม่ขอให้สัมภาษณ์ถึงพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์อีก

ส่วนกรณีที่วันพรุ่งนี้ ( 29 มี.ค.) ทีมทนายทนายความของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ จะไปฟ้องร้องตนเองที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ฐานหมิ่นประมาทนั้น เบื้องต้นทราบแล้วว่า ใครคือทีมทนาย ๗งอยากฝากเตือนผบ.ตร.ว่าให้ดูให้ดีเนื่องจาก บุคคลดังกล่าวเคยฟ้องร้องกับตัวเองมาแล้ว 6 คดีแต่ศาลยกฟ้องทุกคดี พร้อมเตือนไปยังผบ. ตร.ขอให้คิดดี ๆ คิดใหม่ จากนั้นทนายตั้มได้พูดชื่อของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ว่าเป็นผู้ที่เคยฟ้องร้องในคดีหมิ่นประมาทกับตนเองและตนเองชนะทุกคดีแต่ไม่เคยได้รับเงินชดใช้ตามที่ศาลมีคำสั่ง

ทนายตั้มยังฝากไปถึงนายอัจฉริยะให้ออกมายืนข้างประชาชนดีกว่า อย่าไปออกรับแทนตำรวจ พวกนั้นเลย ให้มายืนคู่กันแฉเรื่องส่วยดีกว่า พูดเองยังขนลุกเลย และวันเสาร์นี้ตนเองจะไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง พร้อมเชิญชวนให้ผู้สื่อข่าวไปด้วยกัน ซึ่งตนเองจะเปิดข้อมูลขบวนการนี้เพิ่มเติม

ภายหลังทนายตั้มให้ข้อมูลกับตำรวจแล้ว ได้กล่าวว่า จะเชื่อมั่นในพลตำรวจตรีเจริญเกียรติ เพิ่มขึ้นเป็น 70% และจะเข้ามาให้ข้อมูลกับพลตำรวจตรีจรูญเกียรติเกี่ยวกับพยานหลักฐานอีกครั้งในวันอาทิตย์นี้

บิ๊กตำรวจ  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สำนักเลขาธิการแห่งชาติโปลิสซาริโอ เรียกร้องโพลิซาริโอก่อการร้ายทางตอนใต้โมร็อกโก ข่มขู่ความปลอดภัย-ความมั่นคงในภูมิภาค
เมียนมา รัฐบาลทหารไม่อนุมัติฮุนเซนพบซูจี
“ครอบครัวรัตนพันธ์” เดินหน้าอุทธรณ์คดี SC Asset ฟ้องเอาผิด เรียกค่าเสียหาย 20 ล้าน
"กฟผ." ร่วม "Top News" เปิดตัวสารคดี "ลายกนกยกสยาม" ตอนพิเศษ "สืบสานพระราชปณิธานในหลวงฯ" พร้อมออนแอร์ 19 พ.ค.นี้
น่าห่วง เหตุไฟไหม้ถังเก็บ "ไพโรไลซิสแก๊สโซลีน" ล่าสุดพนักงานดับแล้ว 1 ราย เจ้าหน้าที่เร่งคุมเพลิง
"ทนายอนันต์ชัย" ลุยเปิดโปงแก๊งเชื่อมจิต 10 พ.ค.นี้ ลั่นไม่ผิดหวังแน่ ด้าน "หนุ่ม กรรชัย" จ่อดำเนินการร้องทุกข์กับลัทธิหนึ่งแล้ว
อสส. มอบนโยบายให้กับพนักงาน และ ลูกจ้างสวนสัตว์เปิดเขาเขียว และ ร่วมรับฟังการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ 2567
“พิพัฒน์” นำทีม Safety จิตอาสา แสดงพลังร่วมเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานอย่างยั่งยืน
ด่วน "กนอ." สั่งอพยพคนในพื้นที่ "ไฟไหม้ระยอง" ประกาศเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินระดับที่ 2
เมียนมา รัฐบาล-กลุ่มต่อต้านไม่ยอมรับเจรจาสันติภาพทักษิณ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น