วันที่ 4 ก.ย.64 เมื่อเวลา 18.30 น. ร.ต.อ ปัญญาอมาตย์เสนา พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุรถบัส รับส่งพนักงาน พลิกคว่ำตกลงเกาะกลางถนน มีผู้บาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดที่บริเวณถนนสายเอเชียขาล่องเข้ากรุงเทพฯ หลักกิโลเมตรที่ 24 บริเวณสะพานรถไฟบ้านม้า ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูและมูลนิธิพุทไธสวรรย์
พบรถบัสรับส่งพนักงานป้ายทะเบียนเหลือง 30 -0 766 อ่างทอง ของบริษัทแห่งหนึ่ง อยู่ในสภาพพลิกคว่ำตกลงร่องกลางในลักษณะตะแคง สภาพรถพังเสียหายทั้งแถบ และ ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย-หญิง อายุ ระหว่าง 30-45 ปี เป็นพนักงานโรงงานรวมทั้งคนขับรถบัสได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่มูลนิธิลำเลียงส่งโรงพยาบาลราชธานี และโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบบริเวณก่อนถึงจุดเกิดเหตุพบมีร่องรอยแท่งแบริเออร์ล้ม จำนวนหลายแท่งก่อนจะถึงจุดรถบัสล้มประมาณ 20 เมตร
สอบถาม นายพันชัย สมพฤษ อายุ 40 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตอนได้ขับรถจอดอยู่บริเวณไหล่ทางช่วงนั้นมีฝนตกลงมาอย่างหนัก และก็มองเห็นรถบัสรับส่งพนักงานวิ่งอยู่เลนขวาสักพักก็ได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นรถบัสก็ไถลชนแท่งแบริเออร์แล้วตกลงไปอยู่ข้างเกาะกลางถนนตนจึงวิ่งไปดูก็พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นพนักงานได้พยามช่วยเหลือตัวเองพากันมุดออกมาจากตัวรถ พร้อมคนขับรถ ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและถูกเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาล
ทางด้าน นางสาวสมใจ กระต่ายทอง อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นพนักงานโรงงานเล่าว่า ตนเองได้นั่งรถบัสรับส่งพนักงานมาจากจังหวัดลพบุรี เพื่อมุ่งหน้ามาทำงานที่อุตสาหกรรมโรจนะ 1 พอถึงจุดเกิดเหตุ ขณะนั้นตนเองนั่งอยู่ แต่รู้สึกว่ารถโคลงเคลง จากนั้นก็พลิกคว่ำเลย ส่วนสาเหตุนั้นตนก็ไม่ทราบ
ขณะที่ นางสาวทัศนีย์เพิ่มพูนอายุ 34 ปี คนเจ็บอีก 1 รายให้การว่า จังหวะนั้นตนเองกำลังครึ่งหลับครึ่งตื่นแต่ก็มีความรู้สึกว่ารถมันเสียการทรงตัว และ ได้ยินเสียงเหมือนรถชนแบริเออร์จากนั้นก็พลิกคว่ำ ตนเองก็ลงไปนอนกองอยู่ตรงพื้นกระจกส่วนเบาะนั่งก็ลงมาทับพนักงานในรถ ต่างก็ส่งเสียงร้อง ตนเองคิดว่าไม่รอดแล้ว ส่วนในรถนั้นมีพนักงานทั้งหมด 10 คนรวมทั้งคนขับ ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บ เล็กน้อย แต่มีคนขับรถบาดเจ็บสาหัสศีรษะแตก
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ ปัญญา อมาตย์เสนา พนักงานสอบสวน จะเดินทางไปสอบปากคำคนขับรถบัสและพนักงานที่ได้รับบาดเจ็บเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป
สุรัตน์ ชัยกุลเทวินทร จ.พระนครศรีอยุธยา