“กมธ.อุตฯ” หนุน “นายกฯ” ดันแก้ไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมี เป็นปัญหาระดับชาติ

"กมธ.อุตฯ" หนุน "นายกฯ" ดันแก้ไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมี เป็นปัญหาระดับชาติ

Top news รายงาน นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม(กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและฝ่ายความมั่นคงมาช่วยแก้ปัญหาไฟไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมี รวมถึงการที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้สั่งให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดทั่วประเทศเข้ามาช่วยสำรวจร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น ถือว่าเป็นเรื่องดีที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และคิดว่าการมอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักในการดูแล ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะเป็นเรื่องที่กระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องบูรณาการหลายกระทรวงเข้ามาดำเนินการ

ข่าวที่น่าสนใจ

“การที่ต้องเอาฝ่ายความมั่นคงมาช่วยและเอากระทรวงอื่นๆมาร่วมแก้ปัญหา ถือว่ารัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว ที่จะต้องบูรณาการทุกหน่วยงาน ดังนั้นที่ท่านนายกฯได้สั่งการให้หน่วยงานความมั่นคงเข้ามาช่วย และ พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีสั่งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้ามาช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และตอนนี้รัฐมนตรีอุตสาหกรรมก็ลงมาดูแลปัญหาด้วยตัวเอง ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะเป็นเรื่องที่กระทรวงอุตสาหกรรมต้องบูรณาการหลายกระทรวงเข้ามาดำเนินการเรื่องนี้ จึงต้องได้รับความร่วมมือจากกระทรวงอื่นด้วย” ประธาน กมธ.อุตสาหกรรม กล่าว

นายอัครเดช ยังย้ำอีกว่า ปัญหานี้ตนต้องการให้นายกรัฐมนตรี ยกเป็นปัญหาระดับชาติ เพราะที่ต้องเป็นปัญหาระดับชาติ เนื่องจากเป็นปัญหาที่หมักหมมมาหลายปี ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดราชบุรี พระนครศรีอยุธยา ระยอง และจากที่ทราบก็ยังมีอีกหลายจังหวัดที่มีการกองเก็บกากดังกล่าวอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ปราจีนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐมเป็นต้น ซึ่งถ้ามีการเกิดเหตุซ้ำขึ้นมาอีกจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อหน่วยงานของรัฐ ดังนั้นตอนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะตอนนี้ประชาชนให้ความสนใจเรื่องนี้มาก ฉะนั้นเรื่องการป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคตเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเป็นความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อภาครัฐ ซึ่งการที่นายกรัฐมนตรี กับ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพากรธรรมชาติฯ ลงมาช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมดูแล ก็จะทำให้การควบคุมตรวบสอบเรื่องดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญการเกิดเหตุที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้นจะต้องหาผู้กระทำความผิดให้ได้ ต้องสอบสวนให้ได้อย่างรวดเร็ว และต้องตอบสังคมให้ได้ว่ามันเป็นที่การวางเพลิง หรือเป็นที่อุบัติเหตุ และถ้ามันเป็นการวางเพลิงต้องหาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

นายกฯ บอกไม่มีอะไรจะพูด หลัง "อนุทิน" ประกาศพร้อมแยกทาง
"อนุทิน" ลั่นเด็ดขาด ต่างคนต่างไป​ ​ ถ้า "เพื่อไทย" รักษาข้อตกลงไม่ได้​ ย้ำพร้อมแยกทาง​ ไม่ยอมคืนเก้าอี้ มท.1
"นิพนธ์" ยันคำเดิม "ปชป." ควรถอนตัวจากรัฐบาล ฟื้นเชื่อมั่นพร้อมศึกเลือกตั้งครั้งใหม่
"ฮุน มานี" ปลุกระดมชาวกัมพูชา เดินขบวนสนับสนุน "รัฐบาล-กองทัพ" จัดการปัญหาพิพาทชายแดน
ศาลฎีกา พิพากษาจำคุก "สิระ" 6 เดือน 20 วัน ไม่รอลงอาญา คดีหมิ่นประมาท-บุกรุกรพ.สนาม "หมอเหรียญทอง"
"นายกฯ" ยันเร่งนำสถานการณ์ชายแดนกลับสู่ปกติ ย้ำดีอีตรวจเข้มเฟกนิวส์ขยายขัดแย้งไทย-กัมพูชา
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จัดกิจกรรม “สวนสัตว์สัญจรสู่ชุมชน” สานต่อภารกิจอนุรักษ์กว่า 24 ปี
จนท.ยกระดับคุมเข้มตรวจ "รถขนสินค้า-คนเดินทางเข้า-ออก" ผ่าน "ชายแดนไทย-กัมพูชา"
ตราด กัมพูชารัวปืนกลางดึกแนวชายแดนชำราก ผบ.ฉก.นย.ตราด รับเรื่องจริงและพร้อมรับมือ
“เอกนัฏ” ทลายรีไซเคิลศูนย์เหรียญปราจีนฯ ลอบประกอบกิจการ ซุกขยะพิษ-วัตถุอันตรายกว่า 8,000 ตัน ชง DSI รับเป็นคดีพิเศษ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น