“ไบรท์ ชินวัตร” ลั่นขอปกป้องสถาบันฯด้วยชีวิต จุดยืนชัดค้านแก้ 112 ฝากถึงก้าวไกล “ถอยได้ถอย”

โดย ไบรท์ ชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวท็อปนิวส์ กล่าวว่าในอดีตตนเคยเป็นคนที่หลงผิด ที่มีแนวคิดให้สนับสนุนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

แต่สุดท้ายก็ต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ในวันที่มีสติและคิดได้ว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ สมควรอย่างยิ่งที่ก็ควรมีกฎหมายคุ้มครอง เฉกเช่นประชาชนทั่วไปก็ยังมีกฎหมายคุ้มครองเช่นกัน

จึงไม่เห็นกับนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงของพรรคก้าวไกล จนมีคำถามเกิดขึ้นตามมากมาย ว่าทำไมพรรคก้าวไกล ต้องเดินหน้าแก้ไขมาตรานี้

อยากสื่อสารไปยังพรรคก้าวไกล อย่าดันทุรัง ในการพยายามแก้ไขมาตรานี้ ส่วนตัวหวั่นเกรงว่าสถาบันพระมหากษัตริย์จะถูกทำลาย และไม่ส่งผลดี จนเป็นชนวนนำไปสู่ความขัดแย้งในที่สุด

“ไบร์ท ชินวัตร” ยังกล่าวในช่วงท้ายว่ามาตรา 112 เป็นมาตราที่มีไว้เพื่อปกป้องราชวงศ์ ซึ่งก็เหมือนกับบุคคลทั่วไป ที่มีกฎหมายหมิ่นประมาท

เมื่อใดที่เราถูกหมิ่นประมาท เราก็ต้องสามารถฟ้องกลับได้ ส่วนพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย ท่านก็ต้องมีกฎหมายที่คุ้มครองตัวท่านด้วยเช่นกัน

ไม่เพียงเท่านั้น ไบรท์ ชินวัตร ยังได้เล่าวินาทีที่ได้มีโอกาสร่วมรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี วันที่ 3 มิถุนายน 2566

และการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา พุทธศักราช 2566 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง

ซึ่งเป็นวันที่จะจดจำไปชั่วชีวิต เพราะในวันดังกล่าว “ไบร์ท ชินวัตร” ได้กล่าวถึงแรงจูงใจที่เปลี่ยนจากเสื้อสีแดง มาสวมใส่เสื้อสีเหลือง

เพราะการต่อสู้ที่ผ่านมาของตน ได้ยืนหยัดมาตลอดว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ยังคงต้องดำรงอยู่ตลอดไป ที่ผ่านมาทำให้ตนได้เรียนรู้ว่ามีคนที่คิดจะทำลายล้างสถาบันพระมหากษัตริย์

เมื่อก่อนนี้ตนไม่เคยเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่ปัจจุบันตนได้รู้แล้วว่า มีคนที่จ้องจะคิดล้างทำลายสถาบันสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย

และจากวินาทีแห่งความทรงจำในครั้งนี้ ไบรท์ ชินวัตร ยังได้เปล่งเสียงกราบบังคมทูลต่อหน้าพระพักตร์ในหลวงว่า

“…กระผมชื่อไบรท์ ชินวัตร กระผมผิดไปแล้ว กระผมขอประทานอภัย และขอสัญญาว่าจะรักและขอปกป้องสถาบันนับตั้งแต่วันนี้ตลอดไป …”