No data was found

“อัจฉริยะ” สงสัย นักการเมืองคุยงานจริง ทำไมต้องไปที่อโคจร

กดติดตาม TOP NEWS

จากกรณีที่มีนักการเมืองและนักธุรกิจ ติดเชื้อโควิด-19 หลังเข้าไปใช้บริการสถานบันเทิงชื่อดังหลายแห่ง ย่านทองหล่อ จะเกิดเป็นการระบาดระลอก 3 ซึ่งขณะนี้ยอดของผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นถึงหลักพันคนแล้ว และวันนี้ ทีมข่าว TOP NEWS ได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ถึงกรณีที่มี นักการเมืองและนักธุรกิจ เข้าไปในสถานบันเทิงจนเกิดมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ขึ้นว่า ประเด็นดังกล่าวนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตของนักการเมืองหรือไม่

โดย นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ประเด็นนี้ มองว่า ถ้ามีรัฐมนตรี หรือนักการเมืองคนใดที่ไปคุยงานที่สถานบันเทิง มันเป็นความไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้อง เพราะหากจะคุยงานกันจริง ควรจะไปคุยที่ทำงาน เพราะคุณมีตำแหน่งทางการเมือง หากคุณจะไปเที่ยว มันก็เป็นเรื่องปกติของผู้ชาย แต่หากจะไปคุยเรื่องงาน ไม่ว่าจะเป็นงานราชการ หรือ โครงการอะไร ก็ไม่ควรจะไปที่อโคจรแบบนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและจะส่อไปในทางที่ไม่สุจริต

ส่วนกรณีที่ สถานบันเทิง ที่เปิดรับนักการเมืองและนักธุรกิจ เพื่อหวังผลประโยชน์ในเรื่องของการรับส่วย จากนักธุรกิจ หรือ นักการเมืองที่เข้าไปใช้บริการ ตนอยากตั้งคำถามก่อนว่า ใครเป็นผู้จ่าย เพราะค่าใช้จ่ายในการเปิดเมมเบอร์ รวมไปถึง ค่าอาหารและค่าบริการต่าง ๆ ค่อนข้างแพง หากเป็นนักธุรกิจจ่าย ก็จะส่อให้เห็นว่า เป็นการรับส่วย เพราะการไปคุยงาน หรือ ธุรกิจ ในที่อโคจร ก็เป็นเรื่องที่ผิดอยู่แล้ว แต่หากเป็นนักการเมืองจ่าย ตรงนี้ก็ต้องกลับมาตรวจสอบว่า นักการเมืองคนนั้น ๆ มีรายได้เท่าไหร่ ถึงมีเงินจ่ายค่าเมมเบอร์ในราคาสูง และส่อให้เห็นว่า เป็นการแสวงหาผลประโยชน์จากโปรเจกต์งานหรือไม่ เพราะถือเป็นธรรมชาติของนักการเมืองไทย ที่ต้องการแสวงหาผลประโยชน์ ที่ผ่านมา ก็เห็นได้ชัดเจนว่า ตั้งแต่การระบาดรอบแรก ที่หน้ากากอนามัย ไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ

เรื่องที่ 2 คือ เรื่องของการลักลอบขนแรงงานเถื่อนเข้ามา และเรื่องของวัคซีน ที่ความเป็นจริงแล้ว ทุกคนจะต้องได้รับ วัคซีน จำนวน 2 เข็ม ยกเว้น ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว ซึ่งอย่างน้อยควรมีมากกว่า 100 ล้านโดสขึ้นไป แต่วันนี้ วัคซีน มีเพียงแค่ 1 ล้าน 7 แสนโดส เท่านั้น และฉีดได้เพียง 5 แสนคน ซึ่งกว่าวัคซีนล็อตใหม่เข้ามา อาจจะไม่ทันการแล้วก็ได้ ซึ่งตนมองว่า รัฐจัดหาวัคซีนล่าช้า หรือ อาจจะมีประโยขน์อื่นแอบแฝงหรือไม่ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นโควิดรอบไหน ก็เกี่ยวข้องกับการทุจริตของภาครัฐทั้งนั้น ที่มีผลประโยชน์แอบแฝง

นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังพูดถึงการแพร่ระบาด โควิด-19 ในระลอก 3 ที่เกิดจากการไปเที่ยวสถานบันเทิง ต่อให้ทำการวัดอุณหภูมิ เครื่องก็จับอุณหภูมิไม่เกิน 37.5 อีกทั้ง อาการที่แสดงของการติดเชื้อที่เปลี่ยนไป ที่คนไทยยังไม่รู้ในขณะนั้น ทำให้เครื่องวัดอุณหภูมิ อาจไม่ใช่ตัวชี้วัดว่า ใครเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโควิด-19

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ปาเลสไตน์ ผู้นำลั่น สหรัฐคือผู้ที่หยุดอิสราเอลได้
ยูเครน ผู้นำบิดเบือนข้อมูลสูญเสียทางทหาร
หนุ่มดวงซวย ขึ้นเขาหาของป่าถูกปืนดักสัตว์ยิงเข้ากลางลำตัวทะลุ
คณะทำงานนายกฯ ติง "ปานปรีย์" ยื่นลาออกหลังโปรดเกล้าฯรมว.ต่างประเทศ เผยหารือก่อนหน้าไม่ปฏิเสธ
"ภูมิธรรม" รับเพิ่งทราบ "ปานปรีย์" ลาออกรมว.ต่างประเทศ เชื่อการทำงานไม่สะดุด ไม่กระทบเพื่อไทย
สลด ผู้สูงอายุ วัย 65 ปี เสียชีวิตปริศนากับพื้นปูนคอนกรีตตรวจสอบยังพบว่าผิวหนังลอกออกคาดเกิดจากสาเหตุอากาศร้อน
ชาวบ้านร้องเรียน น้ำเสียทะลักขึ้นจากพื้น ส่งกลิ่นเหม็น อวด นทท.
รู้จัก "จิราพร" รมต.ป้ายแดง DNA "สินธุไพร" อดีต สส.เสื้อแดง ผลงานแน่นไม่แพ้ใคร
"ครอบครัว" สุดเศร้าไร้ปาฎิหาริย์ ร่วมรับร่าง "ดาบตาร์" กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด
"Thailand Biennale" Chiang Rai 2023 ฉลองความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ จัดพิธีมอบธงสัญลักษณ์ให้ จ.ภูเก็ต เจ้าภาพจัดงานในปี 2025

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น