วันที่ 17 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า จากสถานการณ์ โควิด-19 ที่แพร่ระบาด ทำให้ทางรัฐบาลได้ สั่งงดกิจกรรมการท่องเที่ยว บนชายหาดและ ทางทะเล มานานนับปี ส่งผลให้ ระบบนิเวศน์ ธรรมชาติ ได้รับการฟิ้นที่ เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนไปรบกวน ทำให้ที่ไร้คนรบกวน ได้ฟื้นฟูสวยงาม จนเป็นจุดพีค เมื่อฝูงนกเงือกจำนวนมาก หลายร้อยตัว ได้บินลงมาจากยอดภูเขา ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย ทุกๆวันตั้งเช้าจรดเย็น ฝูงนกเงือกบินลงมายึดฟื้นที่ ลงมาหาอาหาร เกาะบนต้นสน บริเวณชายหาดหน้าร้านอาหาร “นับเบอร์วันซีฟู้ดส์ บนเกาะพะลวย” ยิ่งเพิ่มความสวยงาม ที่ได้กลับคืนมาอีกรอบ และรอการต้อนรับนักท่องเที่ยวมาสัมผัสความสวยงามอีกครั้ง ในรูปแบบ “สมุย พลัส โมเดล” เที่ยว 3 เกาะ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า
โดยเฉพาะจุดความสวยงามนี้ หากได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง และ เที่ยวต่อ บนเกาะพะลวย สวรรค์กลางอ่าวไทย หากไม่ไปกินอาหารที่ร้านอาหารนับเบอร์วันซีฟู้ดส์ พร้อมชมนกเงือกอย่างใกล้ชิด ถือว่าไปไม่ถึงเกาะพะลวย กับอีกหนึ่งความสุข ที่นักท่องเที่ยวสัมผัสได้ ซึ่งเกาะพะลวย เป็นเกาะบริวารของเกาะสมุย เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในอำเภอเกาะสมุย ของจังหวัสุราษฎร์ธานี ที่ยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นเกาะแห่งพลังงานสะอาด หรือ Green Island แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก เกาะพะลวย เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างอำเภอเกาะสมุย และ อำเภอดอนสัก ระยะทางกว่า 20 กิโลเมตรทั้งสองฝั่ง สามารถนั่งเรือโดยสารประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะถึงเกาะพะลวยแห่งนี้ เกาะพะลวยมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายไม่ต่างจากเกาะอื่นๆ มีธารน้ำจืดไหลมาจากหุบเขา ให้ชาวบ้านได้อาศัยใช้อุปโภคบริโภค ซึ่งเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของเกาะแห่งนี้ อาหารการกินสำหรับนักท่องเที่ยวจะเน้นอาหารทะเลสดๆ เพราะประชากรส่วนใหญ่บนเกาะประกอบอาชีพประมง ในช่วงเช้าจะมีเรีอประมงของชาวบ้านนำอาหารทะเลสดๆ ขึ้นมาขายสดๆ เพื่อเป็นอาหารรับรองนักท่องเที่ยว การเดินทาง: มีเรือโดยสาร ออกจากอำเภอดอนสักวันละหนึ่งเที่ยว ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะสมุย หรือเกาะพะงัน ก็จะมีเรือนำเที่ยวพามาแวะเที่ยวชมหรือรับประทานอาหารทะเลสดๆ
สำหรับจุดไฮไลท์ของเกาะ ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบมากในขณะนี้ คือบริเวณปากอ่าวเกาะหนึ่ง ซึ่งเป็นท่าเรือที่ทัวร์จะนำนักท่องเที่ยวมารับประทานอาหาร ชื่อร้าน “เกาะพะลวยนัมเบอร์วันซีฟู้ดส์” เป็นร้านอาหาร ประเภทอาหารไทยและซีฟู้ด ทุกวันจะมีนกเงือก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “นกแก๊ก” ซึ่งเป็นนกเงือกที่มีขนาดเล็กที่สุดในประเทศไทย มีความยาวประมาณ 70 – 90 เซนติเมตร มีขนสีดำสนิทเหลือบเขียวแซมขาว มีจะงอยปากและโหนกสีขาวงาช้าง มีสีดำแต้มด้านหน้าของโหนก ทั้งนี้นกเงือกเป็นตัวบ่งชี้ว่า ที่พื้นเกาะพะลวย ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ทุกวันนกเงือกจะบินออกมาจากยอดเขาสูง บนเกาะพะลวย ออกมาวินว่อน นับ `100 ตัว เเละโฉบลงมาเกาะตามกิ่งต้นสน บริเวณหน้าร้านอหาร เกาะพะลวยนับเบอร์วัน ซีฟู้ดส์ จากนั้นนกเงือก ก็จะหาอาหารกิน และไม่ไปไหน จะบินว่อนไปมา และลงเกาะตามกิ่งไม้ ทำให้นักท่องเที่ยวที่ไปท่องเที่ยวและไปรับประทานอาหารที่ร้านแห่งนี้ ประทับใจ พร้อมพากันถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก จนทำให้ร้านอาหารร้านนี้เป็นร้านอาหารยอดนิยม โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปถ่ายภาพนกเงือกได้อย่างไกล้ชิดในระยะ 1 เมตร ด้าน นายสุพจน์ พรหมเมศ เจ้าของร้านอาหารเกาะพลวยนับเบอร์วันซีฟู้ดส์ ต้องคอยเฝ้าระวัง พร้อมทำความเข้าใจไม่ให้นักท่องเที่ยว ไปสัมผัสหรือจับตัวนกเด็ดขาด และยังคอยดูแลสอดส่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ใครไปรบกวนนกเงือก เพื่อให้นกเงือกเหล่านี้อยู่คู่กับเกาะพะลวยต่อไป ขณะเดียวกัน ได้รับความร่วมมือ จาก ด.ต.ชนะ เที่ยวแสวง ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.เกาะสมุย ซึ่งประจำอยู่บนเกาะพะลวย ได้ช่วยกันขับเคลื่อน พร้อมเชิญชวนชาวบ้านมาร่วมกันดูแลและช่วยกันป้องกันห้ามไม่ให้ประชาชน และนักท่องที่ยวไปทำร้ายนก เพื่อให้นกเงือก และธรรมชาติบนเกาะพลวยอยู่ร่วมกันได้ จึงทำให้เกาะพะลวย เป็นแลนด์มาร์กร วมทั้งเป็นสัญลักษณ์ของการอนุรักษ์นกเงือก เตือนใจนักท่องเที่ยว และคนในท้องถิ่นเอง ให้เห็นความสำคัญของนกเงือกและทรัพยากรธรรมชาติ หากนักท่องเที่ยว มาท่องเที่ยวที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง แล้ว ไม่มารับประทานอาหารที่ร้านอาหารทะเลที่เกาะพลวย นับเบอร์วัน ซีฟู้ดส์ เพื่อชมนกเงือกแล้ว ที่เป็นสวรรค์กลางอ่าวไทยถือว่ามาไม่ถึงเกาะพะลวย.
เชิดชาย ทวีเมือง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุราษฎร์ธานี
