CNA รายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของรัฐบาลเวียดนามเมื่อวานนี้ (13 กรกฎาคม)ที่เผยว่าเวียดนามเตรียมที่จะให้ประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแบบผสมระหว่างวัคซีนแอสตราเซเนก้ากับไฟเซอร์ โดยผู้ที่ได้รับวัคซีนโดสแรกของแอสตราเซเนก้าไปเมื่อ 8-12 สัปดาห์ที่แล้ว จะได้รับวัคซีนโดสที่สองของไฟเซอร์-บิออนเท็ค
เวียดนามเพิ่งเริ่มการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ โดยมีไม่ถึง 3 แสนคนที่ฉีดครบตามกำหนดสองโดส และส่วนใหญ่ใช้วัคซีนของแอสตราเซเนก้า แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งได้รับวัคซีนของไฟเซอร์มา 9 แสน 7 หมื่นโดส จึงตัดสินใจใช้วัคซีนของไฟเซอร์เป็นโดสที่สอง
หลายประเทศรวมทั้งแคนาดา,สเปนและเกาหลีใต้ก็อนุมัติให้ใช้วัคซีนผสมไปแล้ว เนื่องจากวิตกปัญหาลิ่มเลือดอุดตันที่อาจเกิดจากวัคซีนแอสตราเซเนก้า จึงเปลี่ยนไปใช้วัคซีนชนิด mRNA เป็นโดสที่สองแทนแอสตราเซเนก้า ซึ่งผลการศึกษาที่สเปนพบว่าการผสมผสานวัคซีนของสองชนิดนี้มีความปลอดภัยสูงและมีประสิทธิภาพการป้องกันที่ดี อย่างไรก็ตามอนามัยโลกออกมาเตือนถึงอันตรายที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานวัคซีนเนื่องจากมีข้อมูลไม่มากพอถึงผลกระทบทางสุขภาพ
เวียดนามต้องการทดลองวิธี mix and match วัคซีนเพราะต้องการเร่งการฉีดให้ทันกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่ทำสถิติต่อเนื่อง เฉพาะเดือนนี้ก็ทำนิวไฮไปแล้วถึง 8 ครั้ง และจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวานนี้อยู่ที่ 2 พัน 31 ราย และว่าเร็วๆนี้จะได้วัคซีนของแอสตราเซเนก้าบริจาคจากออสเตรเลียมาเพิ่มอีก 1 ล้าน 5 แสนโดส