พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 กองทัพอากาศได้รับมอบหมายภารกิจสนับสนุนรัฐบาล และ ศบค.ในหลายมิติ ซึ่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงมีความห่วงใยในความปลอดภัยของกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงและด่านหน้า โดยเฉพาะน้อง ๆ ทหารกองประจำการ ณ ที่ตั้งดอนเมือง ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด อาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว รวมทั้งเมื่อเสร็จจากการปฏิบัติภารกิจน้อง ๆ ทหารกองประจำการเหล่านี้ต้องกลับมาพักอาศัย และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มก้อน ดังนั้นเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับกำลังพล ผู้บัญชาการทหารอากาศจึงสั่งการให้หน่วยเกี่ยวข้องดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุกให้กับทหารกองประจำการ ระหว่างวันที่ 9 – 11 ก.ค.64 เพี่อสร้างความปลอดภัย ผลการตรวจคัดกรองของทหารกองประจำการ จำนวน 718 คน พบว่า มีทหารกองประจำการติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 290 คน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการไม่รุนแรง (กลุ่มอาการสีเขียว) โดยทั้งหมดได้รับการดูแลอย่างดีและรับการรักษาตามขั้นตอนที่ทางสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด
โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า มีรายละเอียดการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้ 1. กองทัพอากาศ จัดเตรียมอาคาร สถานที่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก โดยใช้อาคารกองพันของหน่วย เพื่อจัดเป็น Community Isolation หรือ สถานที่แยกตัวชุมชนของหน่วย ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขประกอบด้วย 2 อาคาร ได้แก่ อาคารสำหรับผู้มีความเสี่ยงสูง และ อาคารสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ 2. ทหารกองประจำการที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด แยกเข้ารับการรักษาภายใต้การกำกับดูแลของบุคลากรทางการแพทย์ กรมแพทย์ทหารอากาศ ดังนี้ 2.1 Community Isolation (สถานที่แยกตัวชุมชนของหน่วย) หรือ อาคารกองพันของหน่วย จำนวน 199 คน 2.2 โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (ดอนเมือง) จำนวน 52 คน 2.3 โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (โรงเรียนการบิน) จำนวน 39 คน 3. สำหรับการดูแลผู้มีความเสี่ยงสูงและผู้ป่วยติดเชื้อมีบุคลากรทางการแพทย์ของกองทัพอากาศดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง 4. กรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง จะนำส่งเข้ารักษาต่อยังโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ 5. สำหรับรายละเอียด Time Line ที่ผ่านมาของผู้ป่วยติดเชื้อนั้น น้อง ๆ ทหารกองประจำการ ไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยกลับบ้านและพักอาศัยอยู่ที่หน่วยตลอดเวลา
พล.อ.ท.ฐานัตถ์ กล่าวว่า สำหรับการติดเชื้อในหน่วย กองทัพอากาศติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เมื่อมีการติดเชื้อก็จะเข้าสู่กระบวนการป้องกันและรักษาตามมาตรฐานสาธารณสุข โดยใช้ศักยภาพของโรงพยาบาลสังกัดกองทัพอากาศรักษาพยาบาลกำลังพล และควบคุมไม่ให้กระจายไปสู่ภายนอก ซึ่งกำลังพลกองทัพอากาศมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้เช่นเดียวกับประชาชนโดยทั่วไป อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารอากาศมีความห่วงใย และได้กำชับให้กำลังพลเพิ่มความระมัดระวังอย่างสูงสุด เนื่องจากที่ตั้งบางหน่วยเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังคงมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค