No data was found

ผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงพื้นที่จังหวัดเลย หารือผลกระทบริมฝั่งโขง จากโครงการสร้างเขื่อนสานะคาม

กดติดตาม TOP NEWS

เลย-ผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงพื้นที่จังหวัดเลย หารือผลกระทบริมฝั่งโขงจากโครงการสร้างเขื่อนสานะคาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 14 มิ.ย. 2565 ณ ห้องประชุมชายโขง ชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอเชียงคาน จ.เลย–นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยพันตำรวจโทกีรป (กี-รบ) กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน นายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงพื้นที่จังหวัดเลย ร่วมประชุมเพื่อรับฟังสภาพปัญหาในพื้นที่ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อประชาชนไทยริมโขง กรณีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวจัดทำโครงการสร้างเขื่อนสานะคาม ซึ่งเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงสายหลักแห่งที่ 5 เพื่อผลิตไฟฟ้าบริเวณแม่น้ำโขงตอนล่าง ซึ่งห่างจากชายแดนไทย บริเวณอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เพียง 2 กิโลเมตร

นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้สืบเนื่องการเล็งเห็นผลกระทบจากโครงการสร้างเขื่อนสานะคามใน สปป.ลาว ที่มีต่อความเป็นอยู่ของประชาชนไทยริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยเฉพาะด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงของประเทศ โดยเขื่อนสานะคามเป็นเขื่อนแห่งที่ 5 ตามแผนบันได 5 ขั้น ของรัฐบาลลาว พิกัดห่างจากชายแดนไทยบริเวณอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เพียง 2 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อผลิตไฟฟ้าบริเวณแม่น้ำโขงตอนล่าง ซึ่งจังหวัดเลยเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีพื้นที่ติดริมโขงที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ โดยที่ผ่านมาได้จัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงและรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงพลังงานและผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรมทรัพยากรน้ำ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนจังหวัด 7 จังหวัดที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง พบว่ามีผลกระทบที่น่ากังวลในหลายมิติ โดยเฉพาะปัญหาการเปลี่ยนแปลงร่องน้ำลึกและการเปลี่ยนแปลงเขตชายแดนไทย-ลาว ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทิศทางการไหลของน้ำ ทำให้เกิดการกัดเซาะตลิ่งของประเทศไทย, ปัญหาการประเมินผลกระทบสะสมข้ามพรมแดนไม่ชัดเจน เนื่องจากการก่อสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขงที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องมีลักษณะเป็นขั้นบันได และพิกัดที่ตั้งของโครงการยังไม่ชัดเจนเพียงพอ ส่งผลต่อการศึกษาประเมินผลกระทบสะสมข้ามพรมแดนต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมของแม่น้ำโขงด้านต่างๆ , ปัญหาการเปลี่ยนแปลงทิศทางการไหลของน้ำ และการไหลของน้ำแบบฉับพลันในบริเวณพื้นที่ตอนล่าง ส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงระดับน้ำในแม่น้ำโขงไม่เป็นไปตามฤดูกาล, ปัญหาปริมาณน้ำในแม่น้ำสาขาซึ่งประชาชนใช้เพื่อการเกษตรและผลิตน้ำประปาสำหรับอุปโภค-บริโภค และผลกระทบด้านเศรษฐกิจเกี่ยวกับประกอบอาชีพของประชาชน

วันนี้ จึงร่วมประชุมกับนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และลงพื้นที่สังเกตการณ์ทำเลที่ตั้งและภูมิทัศน์โครงการก่อสร้างเขื่อนสานะคาม ณ Skywalk เชียงคาน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงร่วมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายณัฐพล วงศ์สง่า หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเลย นายจุลกร เมืองแก้ว ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเลย นายอภินันต์ สุวรรณโค นายอำเภอเชียงคาน นายกฤษฎา โพธิ์ชัย นายอำเภอปากชม โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเลย นายสุนิติ จิรวงศ์สวัสดิ์ ประมงจังหวัดเลย ผู้แทนกลุ่มลุ่มน้ำโขง และผู้แทนกลุ่มประมงพื้นบ้าน เพื่อรวบรวมข้อมูลผลกระทบในพื้นที่ในภาพรวมให้ครอบคลุมชัดเจน สอดคล้องกับสถานการณ์จริง ซึ่งจะนำไปสู่การหาแนวทางบริหารจัดการที่สามารถลดผลกระทบของโครงการก่อสร้างเขื่อนสานะคาม รวมถึงมาตรการเยียวยาที่เหมาะสมต่อไป

นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (15 มิถุนายน 2565) จะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นภาคประชาชน โดยมีเครือข่ายภาคประชาสังคมน้ำโขง 6 จังหวัด (หนองคาย เลย นครพนม บึงกาฬ อำนาจเจริญ มุกดาหาร)เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสาน (คสข.) และพี่น้องประชาชนชาวเชียงคาน ตลอดจนกลุ่มเยาวชน เพื่อรวบรวมประเด็นปัญหาและผลกระทบของโครงการก่อสร้างเขื่อนสานะคาม ประกอบการพิจารณาและมีข้อเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องต่อไป

เขื่อนสานะคาม หรือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำสานะคาม เป็นเขื่อนลำดับที่ 5 ซึ่งอยู่ตามแผนโครงการบันได 5 ขั้น ของรัฐบาลลาวที่สร้างกั้นแม่น้ำโขงสายหลัก ถูกออกแบบเป็นเขื่อนแบบน้ำไหลผ่าน (run-of-river) ซึ่งจะผลิตไฟฟ้าต่อเนื่องตลอดทั้งปี ขนาดโรงไฟฟ้าบนตัวเขื่อนมีความยาวประมาณ 350 เมตร สูง 58 เมตร ติดตั้งกังหันผลิตไฟฟ้า 12 ตัว แต่ละตัวมีกำลังการผลิต 57 เมกกะวัตต์ รวมเป็น 684 เมกกะวัตต์ โดยมีบริษัทจากประเทศจีนได้รับสิทธิให้เป็นผู้พัฒนาโครงการนี้ด้วยต้นทุนทั้งหมด ประมาณ 6.6 หมื่นล้านบาท งบประมาณส่วนหนึ่งประมาณ 867 ล้านบาท จะถูกนำมาใช้เพื่อบรรเทาผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม เขื่อนสานะคามเป็นอีกเขื่อนใหญ่กั้นแม่น้ำโขงที่จะขายไฟให้กับประเทศไทยตามนโยบาย Battery of Asia ของรัฐบาลลาว ที่ตั้งของเขื่อนอยู่ระหว่างเมืองแก่นท้าว แขวงไซยะบุรี กับเมืองสานะคาม แขวงเวียงจันทร์ อยู่ห่างจากทะเลประมาณ 1,777 กิโลเมตร และในประเทศสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) นอกจาก สปป.ลาวแล้ว ประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนสานะคามอย่างมากคือประเทศไทย เนื่องจากตัวเขื่อนจะสร้างกั้นแม่น้ำโขงห่างชายแดนไทย-ลาว ที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ขึ้นไปทางเหนือเพียงราว 2 กิโลเมตร

ทั้งนี้ สำหรับโครงการเขื่อนสานะคาม เอกสารขั้นต้นของโครงการได้รับการเผยแพร่ที่เว็บไซต์คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงแล้วเพื่อให้สาธารณะชนเข้าถึง โดยกระบวนการ “การแจ้ง ปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลง ( PNPCA)” ของเขื่อนสานะคามได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 แต่ไม่กำหนดวันสิ้นสุด เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ Covid-19 สทนช. ในฐานะคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทยพิจารณาไม่รับร่าง TRR ฉบับที่ 1 และ Rapid Assessment เนื่องจากมีข้อมูลบางประเด็นยังไม่ครบถ้วน รวมทั้งไม่สามารถสิ้นสุดกระบวนการ PNPCA ในวันที่ 19 มกราคม 2565 ได้ โดย สทนช. และกระทรวงการต่างประเทศมีความเห็นว่า กระบวนการ PNPCA ยังไม่สิ้นสุด และประเทศไทยควรดำเนินการขอข้อมูลที่เป็นปัจจุบันจาก สปป.ลาว เพื่อใช้ประมวลผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประเทศไทยตามกระบวนการ PNPCA โดยเร็วต่อไป.

ภาพ/ข่าว บุญชู ศรีไตรภพ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เลย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดใจ "น้องชาย" ลุงพลัดตกท่อ เตรียมเอาเรื่องถึงที่สุด ตัดพ้อทั้งน้ำตาพี่คือเสาหลักของครอบครัว
พายุฤดูร้อนกระหน่ำบึงกาฬ เครนยักษ์ล้มทับ 3 คนงานเสียชีวิต ขณะหลบฝนอยู่ท้ายรถ
ฮือฮา พบหินคล้าย "หัวงูยักษ์" โผล่อยู่ข้างหินเต่ายักษ์ จ.นครราชสีมา โลกโซเชียลแห่แชร์เพียบ
ปชช.เดือดร้อนหนักภัยแล้ง หน่วยทหารเร่งช่วยเหลือ
จิตอาสาผนึกความร่วมมือจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ
ชาวบ้านเอะใจ น้ำประปาหมู่บ้านเป็นสีแดง ไปดูบ่อถึงกับขนลุก ฟองฟอด สิ่งสกปรกลอยเต็ม น้ำประปาหรือบ่อหมักปลาร้า
สายมูแห่เจิมมือ นะจินดามณีใหญ่ แน่นวัดหุบบอนวนาราม หวังโชคลาภ เงินทองมั่งคั่ง ประสบโชคดี รับโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา
"พายุฤดูร้อน" ถล่มหนัก บ้านพังเสียหายนับ 100 หลัง ทำปชช.เดือดร้อน
นายกอบจ.นครราชสีมา เดินหน้า ทำ MOU ร่วม มศว.จับมือ หนุนโอกาสนักเรียน เข้าสู่รั้วสถาบันฯ
สอบสวนกลาง รวบสองหนุ่มคู่ขา ลวงเด็กชายสร้างคอนเทนต์ Group Sex เผยแพร่กลุ่มลับ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น