นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 จำนวน 5 แสนล้านบาท จะสามารถส่งให้สภาผู้แทนราษฎรได้ ใน 1 – 2 วันนี้ เพื่อเตรียมบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า จะคิดเห็นเป็นอย่างไรและสมควรจะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระในวันใด ซึ่งก็รับทราบว่าจะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ก่อน ในวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย.หากเห็นว่าเรื่องนี้ พระราชกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการเงินและมีความเร่งด่วนก็สามารถที่จะประชุมกันในวันที่ 4 มิถุนายนได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของสภาผู้แทนราษฎร
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พระราชกำหนดกู้เงินดังกล่าว เป็นเรื่องที่สำคัญ กว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ แต่สภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุระเบียบวาระเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้พระราชกำหนดต้องถูกบรรจุในลำดับถัดไป ส่วนตัวเห็นว่าฝ่ายค้านมีระยะเวลาในการที่จะศึกษาเตรียมตัวที่จะอภิปรายพระราชกำหนดดังกล่าว โดยจะมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เป็นผู้ชี้แจงหลัก และอาจจะมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นผู้ชี้แจงเสริม
เมื่อถามอีกว่าพระราชกำหนดดังกล่าวถือเป็นกฎหมายการเงิน หากไม่ผ่านเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรีจะต้องยุบสภาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ ถูกต้อง ถือเป็นธรรมเนียม เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้เสียงของสภาผู้แทนราษฎรในส่วนของรัฐบาลยังมีความเหนียวแน่นไม่น่าจะส่งผลต่อการโหวตใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าว จะต้องไปสอบถามฝ่ายการเมือง และฝ่ายค้านดู