เพราะเหตุที่พลังประชารัฐมีปัญหาภายในกันมาตลอด แถมภายในพรรคก็มีหลายกลุ่มหลายก๊วนหลายก๊ก วุ่นวายกันไปหมด ด้วยเหตุนี้ตลอดเวลาจึงมีกระแสข่าวย้ายพรรคหรือไขก๊อกเล็ดลอดหรือเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ล่าสุดก็เกิดกระแสข่าวก๊วนสามมิตร ภายใต้การนำของสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม , สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม , อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ รวมถึง สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เตรียมชิ่งพรรคพลังประชารัฐ หนีอกอุ่นๆของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กลับไปซบตัก “ลุงแม้ว” ทักษิณ ชินวัตร ณ พรรคเพื่อไทย เท็จจริงเรื่องนี้ไม่มีใครรู้แต่บรรดาแกนนำสามมิตรออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ว่านี้กันพัลวันว่าไม่จริงไม่มีมูล
โดยน้องเล็กสามมิตรอย่าง อนุชา ออกมาดับไฟเรื่องนี้ ไม่เป็นความจริง ไม่รู้ว่าใครให้ข่าว มองว่าคนที่ปล่อยข่าวน่าจะหวังผลอะไรบางอย่าง พร้อมยืนกรานปัจจุบันไม่มีกลุ่มสามมิตรอีกแล้ว มีแต่คนที่ทำงานการเมืองอยู่พรรคพลังประชารัฐ ขอย้ำว่าไม่มีแนวคิดเหมือนที่ปรากฏเป็นข่าวอย่างแน่นอน
ด้านสุชาติ ที่ตอนหลังถอยห่างจากก๊วนสามมิตร และกลายเป็นกลุ่มไทยคู่ฟ้าสายตรงพล.องประยุทธ์ไปเรียบร้อยแล้ว ก็อัพเฟซบุ้คปัดข่าวลือนี้ทันที “ ผมไม่ทราบว่าใครปล่อยข่าว และมุ่งหวังในวัตถุประสงค์ใด ตลอดทั้งวันมีการสอบถามกันเข้ามาไม่ขาดสาย เรื่องที่ว่าผมจะย้ายพรรคการเมือง ผมขอเรียนแบบนี้ว่า ผมเป็นนักการเมืองที่มีอุดมการณ์ ตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ดูแลทุกข์สุข พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และเทิดทูนใน สถาบันพระมหากษัตริย์ ทุกลมหายใจ ก่อนหน้านี้ผม ได้เคยให้คำมั่นยืนยัน มาหลายครั้งหลายหนแล้วว่า จะขอเคียงข้าง พลเอกประยุทธ์ และ พลเอกประวิตร ทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ดังนั้นข่าวคราวการย้ายพรรคที่มีกระแสออกมาตลอดทั้งวัน ล้วนแล้วเป็นข้อมูลเท็จทั้งสิ้น ขอให้ทราบโดยทั่วกันว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า ผมจะสนับสนุนนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อพลเอกประยุทธ์ เพียงเท่านั้น และยืนยันไม่มีทางแปรพักตร์” เสี่ยเฮ้งออกมาโพสต์เฟซบุ้คไม่มีเปลี่ยนใจจากลุงตู่
ประเด็นที่มีการวิเคราะห์ว่ากลุ่มสามมิตรอาจตีจากพรรคพลังประชารัฐ มีการโยงกรณีที่แกนนำของสามมิตร ” สุริยะ-สมศักดิ์-อนุชา” มีความไม่ลงรอยขบเหลี่ยมกับ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก่อนหน้านี้ก็มีการงัดข้อมีเรื่องมีราวกันมาตลอด ล่าสุดก็มีความพยายามจะเปลี่ยนโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคใหม่ ด้วยการรุกไล่กดดันให้ร.อ.ธรรมนัสพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคไป บรรดาแกนนำสามมิตรรวมทั้งสุชาติก็มีชื่ออยู่ในข่ายเตรียมลาออกเพื่อเปิดทางให้พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาล้างไพ่พรรคใหม่ แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็ไม่สำเร็จเพราะถูกพล.อ.ประวิตรเบรกไว้ ที่สุดร.อ.ธรรมนัสก็่งเป็นเลขาธิการพรรคต่อไป ตรงนี้ก็อาจทำให้กลุ่มสามมิตรอึดอัดที่จะทำการเมืองร่วมกับร.อ.ธรรมนัสที่เกาเหลาไม่กินเส้นกัน
นอกเหนือจากกลุ่มสามมิตรเตรียมตีจาก รอบนี้พรรคพลังประชารัฐยังเจอกระแสข่าวปล่อยว่า “ก๊วนโคราช” กลุ่มของ วิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ถือเป็นแม่ทัพอีสานคนสำคัญของของพรรคซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ เลย แถมมีส.ส.อยู่ในมือหลายคน ลำพังคนในตระกูลก็เพียบแล้ว อาทิ ทัศนียา รัตนเศรษฐ ภรรยาวิรัช ส.ส. เขต 7 นครราชสีมา , อฐิรัฐ รัตนเศรษฐ ลูกชายคนโต ส.ส. เขต 6 นครราชสีมา ,ทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ลูกชายคนรอง ส.ส. เขต 4 นครราชสีมา , ทัศนาพร เกษเมธีการุณ น้องสาวภรรยาของวิรัช ส.ส. เขต 8 นครราชสีมา นอกจากนี้ในระบบบัญชีรายชื่อยังมี วลัยพร รัตนเศรษฐ ลำดับ 29 , ตติรัฐ รัตนเศรษฐ ลูกชายคนเล็ก ลำดับที่ 35 มีข่าวว่าเลือกตั้งครั้งหน้าวิรัช จะยกส.ส.ตระกูลของตัวเองไปซบไหล่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ขอไปอยู่ใต้ปีก “ลุงเน” เนวิน ชิดชอบ แห่งพรรคภูมิใจไทย เพราะกระแสตอบรับในอีสานดี ไม่ว่ายังไงก็เป็นรัฐบาล แถมมีน้ำเลี้ยงถึง ไม่ต้องควักทุนชักเนื้อตัวเอง ทั้ง 2 ข่าวล้วนเป็นกระแสที่ทำให้พรรคพลังประชารัฐสะเทือน เพราะต่างก็เป็นกลุ่มใหญ่ก๊วนสำคัญในพรรคพลังประชารัฐ หาก 2 กลุ่มนี้ไขก๊อกทิ้งพรรครับรองว่างานเข้าลุงป้อมกับลุงตู่แน่นอน มีการวิเคราะห์หาสาเหตุที่อาจทำให้ 2 ก๊วนนี้ทิ้งพรรคไม่ขออยู่กับลุงป้อมลุงตู่ต่อไป 1. โอกาสพรรคพลังประชารัฐจะแพ้เลือกตั้งไม่ได้เป็นแกนนำรัฐบาลมีสูง ทั้งกระแสพรรคตก เลือกตั้งเปลี่ยนไปใช้ระบบเป็น 2 ใบ เขตเล็กลงแต่จำนวนมากขึ้นเป็น 400 เขต บัชีรายชื่อเหลือ 100 คน 2.การย้ายไปอยู่กับพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยมีโอกาสได้เป็นรัฐบาลสูงมีลุ้นเป็นรัฐมนตรีต่อ 3.รายจ่ายน้อยลงไม่ต้องรับภาระมาก
อย่างไรก็ตามดูจากกระแสข่าวที่ออกมา ต้องบอกว่าน่าจะเป็นการปล่อยข่าวเป็นเรื่องลอยลมที่หวังผลร้ายกับพรรคมากกว่า และเป้าก็น่าจะตกไปอยู่ที่ร.อ.ธรรมนัสเลขาธิการพรรคที่ตกเป็นจำเลย ฝากสามมิตรนั้นต้องบอกว่าการอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ใต้ปีกพล.อ.ประวิตรและพล.อ.ประยุทธ์นั้น ถือว่าอบอุ่นเป็นอย่างยิ่งเพราะหัวขบวน 3 ป. โดยเฉพาะลุงป้อมกับลุงตู่ก็ให้เกียรติและมีที่ยืนให้ทุกคนด้วยดีมาตลอด ระหว่างการทำงานก็ไม่เคยมีเรื่องคับข้องหมองใจ อาจจะมีเรื่องขบเหลี่ยมกับร.อ.ธรรมนัสบ้างแต่ก็ไม่หนักหนาถึงขั้นอยู่ด้วยกันไม่ได้ ประเด็นนี้น่าเป็นข่าวปล่อยมากกว่า ขณะที่เรื่องวิรัชหนีลุงป้อมไปซบลุงเนย์ลุงหนูก็ยิ่งแล้วใหญ่ อย่าลืมว่าวิรัชถือเป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐที่รับใช้ใกล้ชิดกับพล.อ.ประวิตรเป็นอย่างยิ่ง ก๊วนนี้เวลาไปไหนจะเห็นแผงแบ็กโฟร์ที่ประกอบด้วย “ธรรมนัส-นฤมล-อฐิรัฐ-วิรัช” แกนนำ 4 คน ยืนตระหง่านหลังพล.อ.ประวิตรเสมอมาชนิดเป็นเนื้อเดียวกันแทบแยกกันไม่ออก เพราะฉะนั้นข่าวลือข่าวปล่อยที่ออกมาพร้อมกัน ทั้งสามมิตรทิ้งพรรควิรัชหนีลุงป้อมไปภูมิใจไทยดูยังไงก็หวังตีกิน ยุแยงตะแคงรั่วให้พรรคแตกหวังบั่นทอนให้ระแวงกันเอง ประเด็นอยู่ที่ว่ามันหลุดมาจากคนนอกหรือคนในปล่อยข่าวทำลายกันเอง
///////////////////////////
